โซ่พยาบาท ตอนที่8

    ณ.คอนโดหรู
    ร่างบอบบางของหญิงสาวฟุบหน้าสะอึกสะอื้น ภายในห้องสีขาวบริสุทธิ์ ภายในใจของหญิงสาวสับสน วุ่นวาย คิดวกวนจนจับต้นชนปลายไม่ถูก 
    {รตีทำไมเธอโง่ๆๆขนาดนี้ แค่เค้าบอกว่ารัก ก็ยอมเป็นของเค้าง่ายๆ เธอมันโง่ๆๆๆจริงๆ}เธอตำหนิตัวเองซ้ำๆ พร้อมร่างบางสะอึกสะอื้นจนเหมือนใจจะสลาย
    เวลาผ่านไปนานแค่ไหนเธอไม่รู้ แต่แสงอ่อนที่กระทบม่านตาทำให้เธอรู้สึกตัว เธอมองที่นอนว่างเปล่าข้างกายอย่างเจ็บปวด ลูบไล้ที่นอนนั้นอย่างอาลัยอาวรณ์ ก่อนที่จะพยุงร่างที่อ่อนแรงขึ้นช้าๆ หญิงสาวตัดสินใจเก็บเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวใส่กระเป๋า เธอถอดแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายวางไว้ที่โต๊ะเครื่องแป้งด้วยมือที่สั่นเทา ก่อนก้าวออกจากห้องหรูด้วยหัวใจที่แหลกเหลวไม่มีชิ้นดี
    
     ที่รีสอร์ทหรูที่พังงา
     "รินๆ ผมจะกลับแล้ว ตื่นเถอะ"
     "ภูคะ รินเพลียมากเลย นอนต่อสักพักนะคะ"
     "ถ้าคุณจะพักต่อก็พักนะ ผมจะไปทำงานก่อน จะกลับก็โทรมาหาผมๆจะให้คนมารับ"
     "ภูค่ะ ริน....โอ๊ก"เธอวิ่งเข้าไปอาเจียนในห้องน้ำ
     "ไหวไหมริน ไปโรงบาลเถอะ ไม่ต้องรอแล้ว จะได้ให้หมอตรวจให้แน่ใจ ถ้ายังไงคุณก็ต้องฝากท้อง คุณอาเจียนทั้งคืน เดี๋ยวจะไม่ไหวนะ"ภูมินทร์ออกข้อเสนอเพราะห่วงหญิงสาวและอยากให้หมอตรวจให้แน่ใจ
     "ไม่เป็นไรค่ะ รินดูแลตัวเองได้ ภูไปทำงานเถอะ"หญิงสาวกล่าวพร้อมอาเจียนต่อแต่แววตาของเธอส่อให้รู้ว่าแผนของเธอสำเร็จไปแล้วหนึ่งขั้นตอน

      ในขณะเดียวกันที่ภูเก็ต
      หญิงสาวเดินอย่างไร้จุดหมายจนรู้สึกเหนื่อยล้า เธอนั่งพักอยู่หน้าชายหาดที่คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติหญิง-ชาย ที่อาบแดดบ้าง เล่นน้ำบ้าง กิจกรรมทางน้ำบ้าง เธอนั่งมองภาพเบื้องหน้าอย่างเลื่อนลอย จนในนาทีนี้เธอก็ยังไม่รู้ว่าจะดำเนินชีวิตต่ออย่างไร

        ทางบ้านที่นนทบุรี
       "คุณรพีพรครับ เราผ่อนผันมาให้คุณหลายครั้งแล้ว คุณไม่ได้ชำระทางธนาคารเลย เราจะให้เวลาคุณเข้าไปเคลียร์จนถึงสิ้นเดือน กรุณาแก้ไขยอดค้างให้อยู่ในสถานะปรกติ ถ้าอย่างนั้นเราจำเป็นต้องยื่นฟ้องเพื่อนำบ้านขายทอดตลาดต่อไปนะครับ
      คุณรพีพรได้แต่ก้มหน้าฟังเจ้าหน้าที่ธนาคารซึ่งมาถึงบ้านเธอ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ขอตัวกลับ เธอจึงรีบคว้าโทรศัพท์กดโทรหาลูกสาว สัญญาณดังแล้วดังอีกจนกระทั่งดับไป 《ทำไมไม่รับสายนะ รับสายหน่อยเถอะ》คุณรพีพรนั่งภาวนาให้รตียารับสาย เพราะเธอคือความหวังสุดท้ายที่จะรักษาบ้านหลังนี้ไว้ได้

        ทางฝ่ายนักสืบที่รินรดาได้ว่าจ้างไว้
       "ฮัลโหล มีอะไรเดี๋ยวติดต่อกลับนะคะ"รินรดารับสายนักสืบหนุ่มพร้อมตัดบทสนทนา ในขณะนั่งรถกลับจากรีสอร์ทไปเหมืองแร่ พร้อมภูมินทร์หลังจากที่คุยตกลงจะไปตรวจพร้อมฝากครรภ์ หลังจากนี้อีกหนึ่งอาทิตย์

       "มีอะไรคืบหน้ารึเปล่า เห็นโทรมา"หญิงสาวรีบโทรกลับเมื่อลงจากรถชายคนรักและเขาเดินเข้าห้องทำงานไปแล้ว
       "คือผมจะโทรรายงานว่า เมื่อสักครู่ มีพนักงานธนาคารมาพบคุณรพีพรที่บ้าน ผมบันทึกเสียงสนทนาไว้แล้ว เดี๋ยวผมจะส่งไปให้คุณรินฟังนะครับ"
      "ส่งมาทางไลน์ไว้เลย แค่นี้นะ ถ้าไม่รีบด่วนอะไรก็ไม่ต้องโทรมา แล้วไว้ชั้นจะติดต่อเข้าไปเอง"

     ภูมินทร์หงุดหงิดที่พยายามโทรอย่างไร แต่รตียากลับไม่รับสาย ในขณะที่รินรดากลับเข้ามาที่ห้องทำงาน "เป็นอะไรค่ะ ดูสีหน้าหงุดหงิดจังเลย อย่าทำหน้าอย่างนี้สิค่ะ อย่าลืมสิค่ะ ว่าที่คุณพ่อ ทำหน้าให้สดชื่นให้สมที่ได้ฟังข่าวดีสิคะ"รินรดาพูดพลางลูบที่เคราชายหนุ่มพร้อมมองสบตาอย่างหวานชื่น
    "คุณขับรถกลับไปก่อนผมนะ แล้วอาทิตย์หน้าเราไปตรวจ แล้วจะได้ฝากครรภ์เลย"
    "คุณสัญญาแล้วนะคะ ถ้ารินตรวจแล้วฝากครรภ์แล้ว เราจะจดทะเบียนกันทันที"
    "ผมรู้น่าริน ผมสัญญาลูกผู้ชาย กล้าทำกล้ารับอยู่แล้ว"
    "รินกลับก่อนนะคะ แล้วจะรอคุณค่ะ"เธอหอมแก้มชายหนุ่มพร้อมหันเดินกลับอย่างผู้ชนะ แต่กลับทิ้งความกังวลอย่างหนักไว้ให้ชายหนุ่มต้องเผชิญ

    เวลาล่วงเลยจนกระทั่งความมืดเริ่มเข้าปกคลุมพี้นที่ทีละน้อยๆ จนแสงสุดท้ายแห่งวันใกล้จะจมลงสู่ทะเลอันดามันกว้างสุดลูกหูลูกตาที่อยู่เบื้องหน้า นักท่องเที่ยวต่างทยอยกันกลับเคหสถานทีละคนๆ จนแทบจะไม่เหลือใครอยู่รอบๆ แต่หญิงสาวก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลุกไปไหน
    
     ชายหนุ่มขับรถอย่างเร่งรีบเพื่อให้ถึงที่หมายให้เร็วที่สุด เมื่อมาถึงที่คอนโดเขาแทบไม่รอรถจอดให้สนิท รีบวิ่งไปที่ลิฟท์กดมันซ้ำๆ ในใจชายหนุ่มดั่งมีไฟประลัยกัลป์สุมอยู่ที่อก 
      "รตีๆ ผมกลับมาแล้ว"เขาเรียกหาหญิงสาว พลางเปิดห้องต่างๆดู แต่กลับไร้แม้แต่เงาของสิ่งที่เขาตามหา ใจชายหนุ่มเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขารีบเปิดห้องนอนเพื่อดูตู้เสื้อผ้า เหลือแค่เสื้อผ้าของตัวเองที่เธอเคยเตรียมให้ชายหนุ่มทุกเช้า ก่อนไปทำงาน เขารีบมองหาสิ่งของอื่นของหญิงสาวอย่างบ้าคลั่ง เมื่อชายหนุ่มเห็นแหวนที่หญิงสาวถอดวางไว้ เขาถึงกลับหมดแรงพยุงตัวให้ยืนต่อได้ ทรุดลงกับพื้นพร้อมปล่อยโฮ ออกมาอย่างสุดจะกลั้นไว้ได้อีกต่อไป