โซ่พยาบาทตอน1

        ณ.ริมชายหาดป่าตอง หญิงสาวหน้าตาคมเข้มนั่งเหม่อมองคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งอย่างเลื่อนลอย ในใจได้แต่คิดวนไปวนมา แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งจากภวังค์เมื่อเสียงมือถือรุ่นรัดด้วยหนังยางดังขึ้น             
       "เบอร์แม่"ในใจคิดพะวง จะตอบไปยังไงดี
       "จ้าแม่" รตียารับสาย
       "ได้โอนเงินมาให้แม่รึยัง สิ้นเดือนแล้วนะ"เสียงมารดาดังมาตามสาย
       "น่าจะวันพรุ่งนี้บ่ายๆนะแม่"รตียาตอบแต่ในใจกลับปวดร้าวที่ต้องโกหกมารดา
       "ทำไมหละลูก ทุกเดือนก็ต้องส่งมาแล้ว"
       "เจ้านายขอเลื่อนจ่ายหนะคะแม่"รตียากล่าวพร้อมน้ำใสๆที่หยดลงอาบแก้ม
       "แล้วทานข้าวรึยัง รักษาสุขภาพบ้างนะลูก อยู่ไกลบ้าน ป่วยมาจะลำบาก"มารดาเตือนรตียา น้ำเสียงห่วงใย
        "ค่ะ" แม่ หนูทานแล้ว ไม่ต้องห่วงหนูนะคะ"รตียาโกหกอีก
        "แค่นี้นะคะ พรุ่งนี้โอนแล้วจะโทรบอกนะคะแม่"เธอรีบตัดบท
        "จ้าลูก แม่คิดถึงหนูนะ"มารดากล่าวพร้อมวางสาย
       จะหาเงินจากที่ไหนดีนะ ในช่วงตกงานอย่างนี้ จะหาเงินจากที่ไหนได้ภายในคืนเดียว รตียาครุ่นคิด.
        เมื่อสองปีก่อนหน้าที่รตียาต้องระหกระเหิน มาทำงานอยู่ภูเก็ต รตียาและมารดาได้ลงทุนเปิดบริษัท ร่วมกับเพื่อนสนิทมารดา แต่ด้วยความใหม่ในวงการธุรกิจ ทำให้ไม่รู้กลโกงเพื่อนมารดา ที่ต้องการเขี่ยเธอให้พ้นทาง ทำให้เธอต้องมาแบกรับหนี้อีกนับล้าน
        แล้วตอนนี้เธอต้องลำบากอีกครั้ง เมื่อนายจ้างที่เธอมาทำงานด้วย"เสียชีวิต" เธอต้องขายทุกอย่างที่มีติดตัวเพื่อประทังชีวิต
         "ไม่ได้!เราจะมานั่งโง่ๆริมทะเล อย่างนี้เหรอไม่ได้!ไม่ได้อีกแล้ว"รตียารำพึงกับตัวเอง
          เธอเดินเข้าไปในซอยที่คราคร่ำไปด้วยหญิง ชาย ทั้งไทยและต่างชาติ ทั้งเสียงดนตรีที่ดังจนแก้วหูจะแตก ทั้งเหล้า ทั้งบุหรี่ จนเธอยากถอยหลังกลับ แต่อีกใจก็ไม่ถอย
         
         ภูมินทร์ วิชญทักษินา เพลย์บอยหนุ่มหล่อ หน้าคมเข้มวัยย่าง30ปี นักธุรกิจชื่อดังแห่งเมืองใต้ เขาจับธุรกิจอะไรก็ประสบความสำเร็จ รวมถึงธุรกิจมืดในซอยดังแห่งนี้ ผับที่เขาเพิ่งเปิดตัวได้แค่สองเดือน แต่กลับมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาอย่างไม่ขาดสาย ทำให้ต้องรับสมัคร      
                  "พนักงานPRจำนวนมาก"
      ณ.ผับหรูกลางซอยวอคกิ้งสตีท
     "เฮ้ย ภู วันนี้ นายจะหิ้วคนไหนดีวะ มีแต่แจ่มๆทั้งนั้นเลย" นพพงษ์เพื่อนสนิทเอ่ยถามภูมินทร์
     "ไอ้นพ ถึงเราจะเป็นเพลย์บอย แต่เราไม่กินไก่วัดหรอกเว้ย" ภูมินทร์กล่าวพร้อมกระดกเหล้าในแก้วรวดเดียวหมด
      "เบาๆหน่อยภู เดี๋ยวเมาก่อนผับปิดนะ"นพพงษ์ปราม
      "เราคอมหาลัยแล้วนพ ไม่ใช่นายคออนุบาล" ภูมินทร์เย้าเพื่อน
      "แล้วเมื่อไหร่ นายจะหาคนดูแลสักทีวะ จะ30อยู่แล้ว น่าจะให้พ่อนายดูๆให้ได้แล้ว" นพพงษ์เอ่ย
      "ไม่! มีเมียเหรอ เรายังไม่อยากติดคุก นายก็รู้นิสัยเราดี ถ้าจะมีจริงๆ ไม่ต้องหาหรอก เดี๋ยวก็มาเอง"ภูมินทร์พูดตามความรู้สึก
        ในขณะที่ดนตรีกำลังเล่นอย่างสนุกสนาน ภูมินทร์ กำลังเริ่มเมาได้ที่ ปล่อยอารมณ์กับเสียงเพลงเต็มที่
        "นายหัว นายหัว มีผู้หญิงมาหางานครับ"พนักงานวิ่งมาเรียกภูมินทร์
       "อะไร มาสมัครงานตอน5ทุ่ม เนี่ยนะ"ภูมินทร์หัวเสีย
        "ขัดจังหวะ คนกำลังสนุก พาไปรอชั้นบน เดี๋ยวตามไป"ภูมินทร์บอกพนักงานอย่างหัวเสีย
         เมื่อภูมินทร์มาถึงห้องรับรองพนักงาน                 "ไง แม่คุณ มาสมัครงานตอนห้าทุ่ม ทำไมไม่มาตอนผับเลิกซะเลยหละ"ภูมินทร์เหน็บแนมหลังจากเปิดประตูนั่งลงตรงหน้า
        "คือว่า"รตียากำลังจะเอ่ย
        "ผมยังไม่อนุญาติ ให้คุณพูด"ภูมินทร์ตะคอกพร้อมมองหน้า แต่เมื่อเห็นหน้ารตียาตรงๆ กลับทำให้ภูมินทร์เสียงอ่อนลง จะด้วยเพราะเหตุใด ภูมินทร์ก็ไม่เข้าใจตัวเอง ว่าเขาสงสารแววตาคู่นี้ หรือเขากำลังหวั่นไหว
     "มาสมัครตำแหน่งอะไร ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่"เขาเอ่ยถามเสียงอ่อนลง
     "มีตำแหน่งอะไรบ้างคะ"รตียามองหน้าเขาอย่างหวาดๆก่อนเอ่ยถาม
     "ชื่อ รตียา อายุ25ค่ะ"เธอตอบ
     "ก็หน้าร้านก็บอกไว้นี่ว่ารับแต่PR"เขามองรตียา อย่างชั่งใจ "หรือจะไม่รู้จริงๆ"ภูมินทร์คิด
     "PRต้องทำเกี่ยวกับอะไรบ้างคะ"รตียาถาม
     "ผสมเหล้าเป็นรึเปล่า"ภูมินทร์ถามพลางยื่นเอกสารให้กรอก
     "ไม่เป็นคะ แต่ดิชั้นฝึกได้ค่ะ"รตียากล่าวพร้อมรับเอกสารมากรอก
     "เดี๋ยวผมจะฝึกให้คุณเอง"ภูมินทร์เสนอตัว แต่ในใจกลับคิดทางอกุศล "อยากรู้จริงๆ จะมาไม้ไหน ผู้หญิงมาอยู่ซอยนี้ ชงเหล้าไม่เป็นเชอะ"
     "เริ่มงานได้เลยไหมคะ"รตียาอยากเริ่มงาน ด้วยหวังว่าจะขอเบิกเงินล่วงหน้าส่งให้มารดา
     "เงินเดือนเท่าไรคะ"เธอถาม
     "ไม่ต่ำกว่าสามหมื่น แล้วแต่ความสามารถ"เขาตอบ
      รตียาดีใจจนออกนอกหน้า"ขั้นต่ำสามหมื่น ที่ทำงานเดิมต้องทำตั้งเกือบสามเดือน โชคเข้าข้างแกแล้วรตียา"เธอมโนจนออกทางแววตา
       "ดิชั้น อยากขอเบิกเงินล่วงหน้าได้ไหมคะ"เธอถามภูมินทร์
       "นัานไง มาไม้นี้เลยเรอะ"ภูมินทร์คิดอกุศลอีก
       "จะเบิกเท่าไร แล้วรู้ใช่ไหม ว่าเบิกล่วงหน้าอย่างนี้ ต้องทำอะไรบ้าง"ภูมินทร์เริ่มวางแผนการ แก้เผ็ดหญิงสาว เพราะเข้าใจรตียาในทางลบ
       "5000ค่ะ ขอให้ได้เงิน จะให้ดิชั้นทำอะไรบ้าง ก็สั่งได้เลยคะบอส"รตียาตอบเพราะในใจ ไม่คิดอะไรนอกจากงานแลกเงิน
       "อ่ะ10000บาท แล้วไปกับผมๆจะสอนผสมเหล้า คืนนี้คุณน่าจะได้ผสมทั้งคืน"ภูมินทร์ยื่นเงินให้พร้อมแววตาเจ้าเล่ห์
         ในผับตอนเที่ยงคืน นพพงษ์ ภูมินทร์ นั่งดื่มกันต่ออย่างสนุกสนาน ในขณะที่รตียาทำหน้าที่พนักงานเสริฟ
         "มานี่สิรตียา ผมบอกคุณแล้วไง แก้วผมไม่ผสมน้ำ"ภูมินทร์ตะคอกใส่รตียา
         "ขออภัยคะบอส เดี๋ยวดิชั้นผสมแก้วใหม่ให้ค่ะ"รตียาลนลาน หาแก้วใบใหม่จ้าละหวั่น
         "ไม่ต้อง ไปเรียกพนักงานPR มาให้ผม"เขาสั่ง
          "ค่ะ"รตียารับคำสั่ง
          "เฮ้ย ไหนว่าไม่กินไก่วัดไง"นพพงษ์แซว
          "ไอ้บ้า เราจะให้มาสอนงาน เด็กใหม่"ภูมินทร์อธิบาย
           "น้องเมื่อกี้เนี่ยนะ เด็กใหม่ น่าสนหว่ะ"นพพงษ์ท่าทีสนใจรตียา
           "ถ้านายคิดว่าเอาก้อนกรวดมาห้อยคอ แล้วมันสวยเหมือนเพรช ก็แล้วแต่นาย"ภูมินทร์พูดเปรียบเปรย
           "ทำไมต้องดูถูกน้องเค้าขนาดนั้นภู"นพพงษ์ตำหนิ
           ก่อนผับปิดภูมินทร์อยู่ในอาการเมามาย นพพงษ์ ต้องช่วยพยุงไว้ตลอดเวลา
           "โถพ่อคอมหาลัย หมดสภาพยิ่งกว่าเด็กอนุบาลอีก"นพพงษ์กระเซ้า
           "พอ พอ นายกลับไปได้ละ ผับจะปิดแล้ว"ภูมินทร์บอกเพื่อนน้ำเสียงอ้อแอ้
          "อ้าว แล้วนายจะกลับเลยไหมวะ"นพพงษ์ถาม
          "ไม่เราจะเรียกประชุมพนักงาน"ภูมินทร์บอกแต่สายตาชำเลืองมองรตียาแววตาเหมือนเสือจ้องตะครุบเหยื่อ
           นพพงษ์ยังถามต่อให้แน่ใจ
          "จริงดิ ไหวเหรอวะ                                             "เออน่า ไปกลับไป"ภูมินทร์ไล่เพื่อน
          "แน่นะ งั้นกลับละ"นพพงษ์ขอตัว                        ตีสองครึ่งหลังผับปิด
         "รีบๆ เก็บกวาดให้เรียบร้อย จะได้แยกย้ายกันไปพักผ่อน"ภูมินทร์ตะโกนสั่งพนักงาน
         "ส่วนคุณ วันนี้ผมต้องทดลองงาน ว่าผ่านโปรไหม อย่าเพิ่งกลับ"ภูมินทร์เดินเข้าใกล้หญิงสาวพลางกระซิบใกล้หู
        "ร้านปิดแล้วนี่คะบอส มีอะไรให้ทำอีกเหรอคะ"รตียาถามอย่างแปลกใจ
        "ผมสั่งให้คุณอยู่ คุณก็ต้องอยู่"ภูมินทร์ขี้นเสียงใส่อย่างวางอำนาจ
        "ค่ะบอส"รตียาก้มหัว มือกุมต่ำ รับคำสั่ง
        "บอสคะ ไม่สนใจรับสาวๆ ไปช่วยดูแล สักคน สองคนหรือคะ"PRสาวสวยนางหนึ่งเดินเข้ามาถามพลางลูบคลำภูมินทร์
       "คืนนี้ผมไม่ว่าง"พลางชำเลืองมองรตียา
       "ถ้าผมว่าง จะคิดถึงคุณ เป็นคนแรกเลย"ว่าพลางลูบที่ขาอ่อนPRสาวสวย
         รตียาชำเลืองมองภูมินทร์กับPRสาวนิดนึงก่อนหันหลังเดินไปช่วยพนักงานคนอื่น                         "ขับรถเป็นไหม"ภูมินทร์เดินเซเข้ามาหารตียา ในขณะที่เธอเก็บเก้าอี้ตัวสุดท้ายเสร็จ พนักงานคนอื่นได้ทยอยกลับกันเกือบหมดแล้ว
        "ขับไปไหนค่ะ"รตียาถามงงๆ
        "เท่าที่ผมจำได้ ผมถามคุณว่าขับเป็นไหมนะ"เขาย้อนเธออย่างยียวน
        "เป็นค่ะ"เธอตอบ พลางคิด"อีตาบ้า กวนประสาทชะมัด"
        "ไปบ้านผม"พูดพร้อมยื่นกุญแจรถให้ ก่อนเดินนำหน้าไปรอที่รถ
        "ไปทำไมคะบอส เดี๋ยวคะบอส เดี๋ยวคะ"เธอกึ่งวิ่งกึ่งเดินตามไป
   เมื่อเธอตามมาถึงรถ
       "หุบปาก ไม่ต้องถามอะไรมาก ผมให้ขับไปบ้านผม ก็ขับ"เขาออกคำสั่ง
     บรรยากาศภายในรถ"ช่างน่าอึดอัดเสียจริง"รตียารำพึง
      "พอถึงแยกหน้าแล้วเลี้ยวซ้ายนะ"
      "ค่ะ เลี้ยวนี่ใช่ไหม"รตียาชี้เข้าในซอย
      "บอสคะบอส"
      "อ้าวหลับ ทำไงต่อหละ"เธอรำพึงพร้อมมองหาบ้านที่น่าจะใช่บ้านของเขา
      โชคดีที่บ้านมีแค่ไม่กี่หลัง เธอขับไปเจอป้าย"วิชญทักษิณา"เธอมั่นใจ เธอเห็นนามบัตรในรถ "ภูมินทร์ วิชญทักษิณา"
        มีเด็กวิ่งออกมาเปิดประตูเหมือนรู้เวลา  หลังจากนำรถเข้าจอดเรียบร้อย
       "ฝากดูแลบอสนะคะ พอดีบอสขับรถกลับมาไม่ไหว เลยวานให้ขับมาส่งคะ"รตียาอธิบาย
        "ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ดิชั้นขอตัวกลับก่อนนะคะ"รตียารีบขอตัว
         "แล้วคุณจะกลับยังไงคะ มีรถแล้วรึยังคะ"สาวใช้เอ่ยถาม
          ขณะเดียวกันนายหัวภูชิต วิชญทักษินา ผู้เป็นบิดาของภูมินทร์ เดินออกมาพร้อมสั่ง
          "รอสักครู่ เดี๋ยวจะให้คนขับรถไปส่ง"
          "ขอบคุณคะ"รตียารีบยกมือไหว้

โซ่พยาบาทตอน2

      ที่ผับเวลาสองทุ่มตรง
     "น้องคะ พี่เป็นพนักงานใหม่ พี่พอจะช่วยทำอะไรได้บ้าง แนะนำหน่อยนะคะ"รตียาแนะนำตัว
     "พี่ทำตำแหน่งอะไรหละ"พนักงานรุ่นน้องถาม
     "PRค่ะ"เธอตอบ
     "งั้นก็ ไม่ต้องช่วยหรอก ไปนั่งแต่งหน้ารอลูกค้าเลย"พนักงานบอกก่อนเดินไปทำหน้าที่ต่อ
     "จ้างมาแต่งหน้าเหรอ"รตียาครุ่นคิด
     "คุณพนักงานใหม่ชื่อรตียาใช่ไหม"พนักงานชาย เดินมาถาม
     "ใช่คะ มีอะไรคะ"เธอถาม
     "บอสให้มาเรียกไปพบ"เขาตอบ
     "คะ ขอบคุณ"ในใจกลับคิดพะวง"จะโดนอะไรอีกนะ"

      รตียาเคาะประตูห้องนายภูมินทร์
     "เข้ามา"
     เธอเดินเข้ามายืนหน้าโต๊ะทำงานเขา
     "คุณจะกลับ ทำไมไม่บอกผม"เขาถามเสียงเข้ม
     "ก็ดิชั้นเห็นบอสหลับ ก็เลยขอตัวกลับ"
     "นี่คุณ! ไม่รู้หรือแกล้งเนี่ยรตียา"เขาหงุดหงิดใส่เธอ
      "รู้ว่าอะไรคะบอส งงจริงๆ"
      "จะโก่งราคา ว่างั้น"
      "ดิชั้น ไม่รู้จริงๆคะ ว่าคุณหมายความว่าไง"เธอชักโมโห
      "เอาเถอะๆ ไปทำงานต่อไป"ภูมินทร์โบกมือไล่ อย่างขัดใจ
 
         รตียาเดินออกจากห้อง
       "ประสาทชะมัด คนอะไรเนี่ย" เธอพึมพำ ในฃณะที่เดินลงไปทำงาน เธอสวนทางกับนพพงษ์ ซึ่งกำลังจะไปหาภูมินทร์
       "สวัสดีครับ คุณเอ่อ...คุณ"
       "รตียาค่ะ"เธอตอบ
       "ครับ คุณรตียา"
       "คุณ จำผมได้ไหมครับ ผมเพื่อนภูมินทร์ ที่เมื่อคืนคุณ"
        "ค่ะ ดิชั้น จำได้ เพียงแต่ยังไม่รู้ชื่อคุณค่ะ"
        "ผม นพพงษ์ครับ" ชายหนุ่มแนะนำตัว
        "ยินดี ที่ได้เจอคุณอีก"นพพงษ์สบตารตียา ด้วยแววตาประกาย
         "ค่ะ เช่นกัน"
         "ขอตัว ทำงานนะคะ"รตียาเดินเลี่ยงออกมา
       
          เสียงเคาะประตูดังขึ้น
          "เปลี่ยนใจ หละสิ มารยา ท่าเยอะ"ภูมินทร์คิด
          "ไงภู เมื่อคืน กลับยังไง"นพพงษ์ถามทันทีเมื่อมาถึง
           "อ้าว นายเองเหรอ คิดว่า...."
           "คิดว่าอะไร คิดว่าใคร"นพพงษ์ พยายามมองหา
           "เปล่า ไม่มีอะไรหรอก"ภูมินทร์กลบเกลื่อน
           "เฮ้ยภู เมื่อกี้ เราเจอ พนักงานใหม่ที่ชื่อ รตียาด้วย น่ารักมากๆเลย พูดจาก็..."
           "จะพล่ามอีกนานมะ รำคาญ"ภูมินทร์ตัดบท
           "หงุดหงิด อะไรอีกครับคุณภูมินทร์"นพพงษ์ถามแกมหยอก
           "หงุดหงิด ก็ไป ดื่มต่อ"นพพงษ์พูดพร้อมดึงมือให้ชายหนุ่มลุก ในฃณะที่เสียงโทรศัพท์ภูมินทร์ดังขึ้น
          "ว่าไงที่รัก"ภูมินทร์รับสาย
          "ทำไม ภูไม่มาหารินบ้าง รินเหงา รอคุณโทรมาคุณก็ไม่โทรมาเลย"รินรดา คู่ขาภูมินทร์ทำเสียงกระเง้ากระงอด
           "ช่วงนี้ งานผมยุ่งๆริน ผับก็เพิ่งเปิด ไหนจะงานที่เหมืองอีก ผมว่างเมื่อไร จะรีบไปหาคุณคนแรกเลยนะ อย่างอนผมเลยที่รัก"ภูมินทร์ทำเสียงอ้อน
           "ก็ได้ค่ะภู แต่คุณต้องสัญญากับรินนะ ถ้าคุณว่าง คุณจะพารินไปมัลดีฟ"เธอขอ
           "ได้เลยที่รัก จะยิ่งกว่ามัลดีฟ ผมก็จะพาไป เอาให้ลืมเมืองไทย ไปเลยดีไหม"
           "ดีค่ะ แล้วอย่าให้รินรู้ ว่าคุณวุ่นวายกับสาวอื่น รินตามถึงที่แน่ๆ"รินรดาขู่
           "ครับผม แค่นี้นะที่รัก"ภูมินทร์กดวางสาย
           "รินโทรมา"นพพงษ์ถามเพื่อนทั้งที่รู้คำตอบ
           "ตกลงนายกับริน จะยังไงกันแน่ภู"
           "นายก็รู้คำตอบ ว่าทำไม"ภูมินทร์ทำหน้าเครียด
           "แล้วทำไม ไม่บอกกับรินตรงๆ ว่านายไม่ได้คิดจริงจัง ถึงยังไงพวกเราก็เพี่อนกัน ทั้งรินทั้งนายทั้งเราโตมาด้วยกัน เรียนมาด้วยกัน อย่าเห็นแก่ตัว ที่จะเก็บรินเอาไว้ทั้งที่นายไม่คิดจะจบที่ริน"
นพพงษ์เตือน
           "เออ เดี๋ยวเราว่าจะหาโอกาสบอกริน ปะดื่มดีกว่า

       
         
            ภายในผับ
            รตียายืนอยู่หน้าเคาท์เตอร์บาร์ เพื่อรอต้อนรับลูกค้า
            "ทางนี้ครับพี่ เชิญครับ"พนักงานบอกกับไกด์ ซี่งกำลังพาลูกค้ากรุ๊ปแรกของคืนมาถึง
            "รับเครื่องดื่ม อะไรดีครับ"
            "เอาเบียร์มาก่อน แล้วเรียกPRให้ด้วย"ไกด์บอก
             "PR10คน มีใครมาถึงแล้วบ้าง"ผู้จ้ดการร้านเดินเข้ามาถามสาวๆ
             "ที่มาแล้วก็มี ดาว,มิ้นต์,กาญน์,นา,พีท,รัน,ยา,จีน่า แล้วก็หนูนี่แหละ"วรรณPRนางหนึ่งพยายามนับให้ครบ
             "ขาดคนนึงสิ"ผู้จัดการคิด
             "อ๋อ ไม่ขาดค่ะ มีพนักงานใหม่อีกคนยืนอยู่ตรงเคาท์เตอร์บาร์ค่ะพี่"วรรณบอก
             "เหรอ ชื่ออะไร"ผู้จัดการถามวรรณ
             "ถ้าหนูจำไม่ผิด ชื่อรตียาค่ะ"วรรณตอบ
             "โอเคร ครบ ไปๆรีบๆ ไปกันก่อน เดี๋ยวจะไปตามอีกคนตามไป"ผู้จัดการสั่ง
           
              ผู้จัดการถาม
             "ใช่PRชื่อรตียา ใช่ไหม"
             "ใช่ค่ะ"
             "มา ตามมานี่"รตียาเดินตาม
             "รับลูกค้า ญี่ปุ่น แล้วต่อไป พอมาถึงที่ร้านแล้วมานั่งรวมกับกลุ่มPRนะ จะได้เรียกง่ายๆ"
             "ค่ะ"รตียารับทราบ เมื่อมาถึงกลุ่มนักท่องเที่ยว เธอกลับต้องมานั่งกับไกด์นำเที่ยว
             "สวัสดีค่ะ"เธอทักทาย
             "นั่งลงสิ"ไกด์บอก
             "เพิ่งมาทำงานที่นี่เหรอ ผมพาลูกทัวร์มาเที่ยวตั้งแต่ที่นี่เปิดตัววันแรก ไม่เคยเห็นเลย"
             "ค่ะ วันนี้วันที่สอง"
             "โอเคร วันนี้ เต้นเป็นเพื่อนผม เดี๋ยวผมเชียร์ทิปให้หนักๆ"ไกด์บอก
             "ดิชั้น เต้นไม่เป็นหรอกคะ"
             "ไม่เป็นไร นั่งเป็นเพื่อนก็ได้"ว่าแล้วพลางโอบไหล่รตียา
             รตียาพยายามเบี่ยงตัวออก
     
             "เอาดื่ม"ไกด์บอกกับทุกคนพร้อมหันไปสั่งเด็กเสริฟ
             "ถ้าเครื่องดื่มใครหมด ต่อมาเลยนะเรื่อยๆ วันนี้เต็มที่กันเลยทุกคน"พร้อมยกแก้วเป็นสัญญาณให้ทุกคน
              "คัมปาย เฮ้ๆ"ทุกคนชนแก้วดื่มกันอย่างสนุกสนาน
              "เอ้าดื่ม เยอะๆ" ไกด์หนุ่มจับแก้วใส่ปากให้รตียา
           
             ขณะที่ภูมินทร์และนพพงษ์กำลังนั่งดื่มอยู่นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยเข้ามาจนหนาตา
              "มองหาใครภู เราเห็นนาย มองตั้งแต่มานั่งแล้ว"
             "เปล่านี่ !มองอะไร ไปเรื่อยเปื่อย"ภูมินทร์ปฏิเสธ แต่ก็ยังไม่หยุดมองไปที่รตียา พร้อมกับยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวหมดโดยไม่ละสายตาจากเธอ
             "เอา ออนเดอะร็อคมา"เขาสั่งเด็กเสริฟ
             "ครับนายหัว"เด็กเสริฟชาวใต้รับแก้วจากภูมินทร์
             "เฮ้ยๆ ขนาดผสมเมื่อวานยังแทบคลานกลับ นายเป็นไรภู"
            "ไม่เป็นไร แค่อยากดื่ม"ตอบเพื่อนแต่สายตายังอยู่ที่รตียา ในขณะเด็กเสริฟยื่นแก้วให้ ภูมินทร์คว้าแก้วมาดื่มโดยไม่รอ
            "เฮ้ยๆภู ไม่ใช่แล้ว"นพพงษ์เข้ามาดึงแก้วออกจากมือภูมินทร์
           "นายทำอะไรนพ เอาแก้วมาคืน"
           "ถ้านายดื่มอย่างนี้ เราไม่ให้นายดื่ม"นพพงษ์บอกเพื่อน
           "นายเคยอยากได้อะไร แล้วไม่ได้ไม๊"
           "เคยดิ บ่อยไป อยากได้ของเล่นแล้วพ่อไม่ซื้อให้ อยากกินไอศกรีมตอนป่วย แล้วแม่ห้ามอะไรอย่างเนี้ย ว่าแต่นายถามทำไม นายอยากได้อะไรวะ" นพพงษ์ถามงงๆ
           "แต่คนอย่างภูมินทร์ ถ้าอยากได้อะไร ก็ต้องได้!"ภูมินทร์พูดออกมาด้วยความอยากเอาชนะ
          เที่ยงคืนครึ่ง
          "คุณคะ ดิชั้นขอเข้าห้องน้ำนะคะ"เธอขอตัวกับไกด์
          "เชิญครับ ตามสบาย ให้ผมไปเป็นเพื่อนไหม"
          "ไม่เป็นไรค่ะ"
          ในขณะที่รตียากำลังจะเดินไป จีน่าพนักงานPRสาวอีกคน ก็กำลังจะไปห้องน้ำ
          "ไปห้องน้ำเหรอ"จีน่าถาม
          "ค่ะ"
          "งั้นไปพร้อมกัน"จีน่าชวนเธอ
        ฝ่ายทางภูมินทร์เห็นว่ารตียากำลังเดินออกมาจากโต๊ะนักท่องเที่ยว
           "เข้าห้องน้ำแปปนะนพ"
           "ให้ไปด้วยไหม"
           "ไม่ต้อง เราไปเอง"ภูมินทร์บอก
           "เคร"
         ที่ห้องน้ำหญิง
           "คุณจีน่าคะ ดิชั้นถามอะไรหน่อยคะ"
           "ว่าไงคะ"จีน่าถามพลางล้างมือ
           "ถ้าลูกค้าจะพาเราออกไปเที่ยวต่อข้างนอก ถ้าเราไม่อยากไป จะทำยังไงคะ"
           "ก็ซื้อเวลาตัวเองสิคะ ปฏิเสธลูกค้าไม่ได้ เราต้องใช้เงินเราเองคะ"จีน่าสอน
           "ถ้าเราไม่มีเงินสดจ่าย จะให้หักในเงินเดือนได้ไหมคะ"เธอถาม
           "ทำไมถึงไม่อยากไป เงินเค้าก็จ่ายให้ ไม่ต้องควักเงินตัวเอง แล้วยังได้ทิปอีก ทั้งกิน ทั้งเที่ยวฟรี ดีจะตาย"เธอบอกอย่างอารมณ์ดี
           "แล้วอย่าให้ผู้จัดการหรือบอสรู้นะ ว่าปฏิเสธลูกค้า มีหวังงานเข้า กลับก่อนนะคะ"เธอขอตัว
           "แย่จัง เงินที่เบิกมาเมื่อวาน ส่งให้แม่ไป7000เหลือ3000 ถ้าต้องซื้อเวลาอีก1500 เหลือ1500 จะใช้ยังไงได้ตลอดเดือน"เธอนับเงินที่เหลือ พาลคิดหนัก
            หน้าห้องน้ำภูมินทร์แอบสังเกตรตียาอยู่เงียบๆ
         
           ภูมินทร์เดินกลับมาที่โต๊ะ พร้อมสั่งเด็กเสริฟ
           "ไปเรียกผู้จัดการมาหาผมหน่อยนะ ผมจะขึ้นไปรอห้องทำงาน"
           "ทำไมเหรอภู ลูกค้ามีปัญหาเหรอ"นพพงษ์ถาม
           "นิดหน่อย นายนั่งดื่มรอเราก่อนนะ เดี๋ยวเรามา" ว่าแล้วก็เดินขึ้นไปห้องทำงาน
           เสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้น
           "เข้ามาครับ"ภูมินทร์อนุญาติ
           "ครับบอส มีอะไรเหรอครับ"ผู้จัดการถามเมื่อเข้ามาในห้อง
           "พอดีว่า มีลูกค้าที่เป็นเพื่อนผม เค้าฝากเงินมาซื้อเวลาให้ รตียา"ควักแบงค์พันห้าแบงค์ ส่งให้ผู้จัดการ "แต่เรื่องนี้เป็นความลับนะ"
           "ครับบอส พอดีลูกค้ากำลังจะ จ่ายบิลเห็นว่าจะซื้อเวลาทั้งหมดทุกคน
           "คนอื่นก็ซื้อไป ถ้าลูกค้าถามเรื่องรตียา ก็บอกว่ามีคนซื้อเวลาไว้ก่อนแล้วตั้งแต่หัวค่ำ"
             "ครับบอส"
           ที่กลุ่มนักท่องเที่ยว
              "อะไร ทำไมซื้อไม่ได้"ไกด์โวยวาย
              "พอดี มีลูกค้า โทรมาซื้อเอาไว้ตั้งแต่หัวค่ำแล้วครับ"ผู้จัดการพยายามอธิบาย
              "ไหนคุณบอกผมว่า เพิ่งมาทำงาน ทำไม ถึงขนาดโทรมาซื้อเวลาได้"ไกด์หันมองรตียา
              รตียาก้มหน้าได้แต่ชำเลืองสบตากับจีน่างงๆ
              "ทีหลัง ถ้าผมมา อย่าเอาผู้หญิงคนนี้มานั่งอีกนะ ใหม่ที่นี่ เก่าที่อื่น" ไกด์หนุ่มพูดพลางมองรตียาอย่างเหยียดหยาม
              "กลับ"บอกพร้อมเดินจากไป รตียาได้แต่ก้มหน้า น้ำตาแห่งความคับแค้นไหลหยดลงพื้น
             "ปะ เรา"ผู้จัดการหันมาคุยกับรตียา หลังจากกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินพ้นประตูผับ
              ผูจัดการมองหน้ารตียา
             "ไม่เอาน่า อย่าร้อง"
             "ใครจ่ายเงินคะ"เธอหันมาถามผู้จัดการสายตาคาดคั้น
             "พี่จ่ายให้เองแหละ"
             "จีน่า เล่าให้พี่ฟังเหรอคะ"
             "ใช่ๆ จีน่า ใช่"เขารับส่งๆ
             "เงินเดือนออกเมื่อไร จะรีบคืนให้นะคะ"
             "ไม่เป็นไรน่า ปะ ช่วยกันเก็บกวาด ร้านจะปิดแล้ว"เขาสั่ง

     

แนะนำตัวละคร โซ่พยาบาท

 

                  โซ่พยาบาท          

     " รตียา ศศิรุจ"หรือ รตี อายุ25ปี สาวหน้าคม ผิวสีแทน นัยตาสีน้ำผึ้ง เธอต้องระหกระเหินมาทำงานให้ นายจ้างชาวต่างชาติที่ภูเก็ต หลังจากโดนเพื่อนสนิทของมารดาโกงธุรกิจที่ลงทุนร่วมกัน พร้อมหนี้สินที่เธอต้องแบกรับอีกนับล้าน
       "ภูมินทร์ วิชญทักษินา"บอสหรือนายหัวภู อายุย่างเข้า30ปีหนุ่มหน้าตาคมเข้ม แบบฉบับหนุ่มใต้ หนุ่มเพลย์บอยนักธุรกิจดังแห่งแดนใต้
        "รินรดา สิทธิจรรยา"หรือริน อายุ29ปี ลูกสาวนักธุรกิจเพื่อนนายหัวภูชิต เป็นทั้งเพื่อนทั้งคู่นอนกับภูมินทร์ รักภูมินทร์มากจนยอมทุกอย่างทั้งที่รู้ว่าเขาไม่คิดจริงจัง
        "นพพงษ์ วชิรทัต"อายุ30ปี เพื่อนสนิทของภูมินทร์และรินรดา
        "หมออรรณพ วชิรทัต"น้องชาย วัย30 ของนพพงษ์
         "ภูชิต วิชญทักษินา" หรือ นายหัวใหญ่ นักธุรกิจ ผู้ทรงอิทธิพลแห่งแดนใต้ บิดาของภูมินทร์
          "รพีพร ศศิรุจ"มารดา ของรตียา คุณยายของ น้องแพรเพรช
           "แพรเพรช  ศศิรุจ"หรือน้องลูกแพร ลูกสาวของรตียา

                         คำเตือน

1.นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียนเพื่อความบันเทิง ไม่มีเจตนาพาดพิงถึงบุคคลหนึ่ง บุคคลใด
2.เจ้าของรูปภาพที่นำมาประกอบบทบาทของตัวละครไม่เกี่ยวข้องกับนิยายเรื่องนี้
3.อาจมีคำพูดที่ไม่เหมาะสมหรือมีคำรุนแรง ผู้มีอายุต่ำกว่า18ปี ควรได้รับคำแนะนำ