โซ่พยาบาท ตอนที่9

  ภายในคืนเดียวกันในขณะที่รตียากำลังสับสน หญิงสาวพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้านั่งอยู่ริมชายหาด ดูอย่างไรก็เหมือนสาวต่างจังหวัดที่เข้ามาหางานทำ สาวประเภทสองคนหนึ่งนั่งสังเกตรตียาอยู่นาน จึงตัดสินใจเดินเข้ามาคุยด้วย
   "มาหางานทำเหรอคะ"สาวประเภทสองเปิดฉากทักทายก่อนอย่างมีไมตรี
   "เอ่อ ดิชั้น คือว่า..."เธอกระอึกกระอักที่จะตอบคำถาม เพราะเธอก็ยังสับสนในชีวิตว่าเธอจะทำอย่างไรต่อไป
   "มีอะไรก็บอกกันได้นะคะ เห็นนั่งอยู่อย่างนี้นานแล้ว เป็นห่วงหน่ะค่ะ"หล่อนจีบปากจีบคอพูดเพื่อให้เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้นที่จะกล้าคุยกับคนที่เพิ่งจะรู้จักครั้งแรก
    "คือดิชั้นมีปัญหากับเพื่อนที่ห้องหน่ะคะ เลยอยากออกมาหาห้องพักเล็กๆเช่าอยู่ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่รู้จักที่ไหนเลย"เธอรู้สึกว่าผ่อนคลายขึ้นที่จะเล่าปัญหาที่เธอกำลังเผชิญแก่เพื่อนใหม่กายเป็นชายแต่ใจเป็นหญิง
    "แล้วมีงานทำที่นี่แล้วเหรอ"หล่อนถามหญิงสาว
    "ยังเลยค่ะ ว่าจะหาห้องให้ได้ก่อน แล้วก็จะหางานต่อค่ะ"
    "เอาอย่างนี้ดีไหม วันนี้คงจะหาห้องไม่ทัน ถ้าเธอเชื่อใจชั้น ก็ไปพักที่ห้องชั้นก่อนดีไหม"หล่อนเสนอ
    "จะดีเหรอคะ ดิชั้นเกรงใจหนะคะ"
    "ไม่ต้องเกรงใจ ชั้นพักอยู่กับเพื่อนผู้หญิงอีกคน บ้านที่ชั้นเช่ากันอยู่มีตั้ง3ห้อง อีกห้องนึงมันว่างอยู่ ก็พักไปก่อน เรื่องงานเดี๋ยวชั้นจัดการให้"หล่อนตอบหญิงสาวพร้อมเสนอต้วเรื่องหางานให้อย่างมีนัยแอบแฝง
    "ถ้ายังไงดิชั้นจะช่วยเรื่องค่าน้ำ ค่าไฟนะคะ"เธอตกลงเพราะเวลาแบบนี้คงหาความปลอดภัยไม่ได้ดีกว่านี้อีกแล้ว

    ทางฝ่ายภูมินทร์ ที่คอนโด เขาพยายามเดินหาจดหมายหรืออะไรก็ได้ ที่จะสามารถบอกเหตุผลที่ทำให้ภรรยาสุดที่รัก ต้องหอบเสื้อผ้าหนีเขาไปอย่างนี้ เขาเห็นโทรศัพท์ที่หญิงสาวใช้เป็นประจำตกอยู่ที่พื้นจึงเก็บขึ้น เพื่อหวังจะเปิดดูให้มันคลี่คลาย แต่ทว่าแบตหมดและปัญหาคือ"ไม่มีที่ชาร์ตแบต สำหรับมือถือรุ่นนี้" 
     "คุณหนีผมทำไมรตี ผมไม่ดีตรงไหน ผมผิดอะไร"เขาคิดวนไปมาพร้อมน้ำตาลูกผู้ชายที่คลอสองตาคู่นั้น เขาพยายามสะกดกลั้นอย่างสุดความสามารถแต่ก็แพ้ต่อความรู้สึกต้องปล่อยให้มันไหลออกมาอย่างผู้พ่ายแพ้
     เขาเหลือบไปเห็นซองสีขาวที่สอดมาจากช่องประตู เขารีบนำมันออกมาอ่าน
    "คุณภูคะ ถ้าคุณได้อ่านจดหมายฉบับนี้ ดิชั้นกับแฟนใหม่ชาวอเมริกันของดิชั้นคงเดินทางมาไกลมากแล้ว ดิชั้นขอโทษนะคะที่ไม่สามารถอยู่กับคุณต่อไปได้อีก ทางบ้านดิชั้นก็กำลังจะถูกยึด แม่และครอบครัวดิชั้นกำลังลำบาก ดิชั้นต้องเลือกที่จะรักษาครอบครัวไว้ ไม่ต้องตามหานะคะ เพราะอย่างไรดิชั้นก็ยืนยัน เลือกความสบายจากคุณไบรอัล มากกว่าคุณ"
    ชายหนุ่มอ่านพร้อมน้ำตาแห่งผู้แพ้
    "ผู้หญิงอย่างเธอ มันก็แค่ผู้หญิงเห็นแก่เงินคนหนึ่ง อ้างเรื่องครอบครัวที่แท้ก็เห็นแก่ความสบาย ทีก่อนหน้าไม่เห็นจะบอกเรื่องปัญหา ตอนนี้กลับเอาครอบครัวมาอ้าง นังแพศยา"ชายหนุ่มคำรามเมื่ออ่านจดหมายที่*รินรดา*นำมาสอดไว้ก่อนหน้าที่ ชายหนุ่มจะกลับมาถึงไม่ถึงสองชั่วโมง

    อีกหนึ่งอาทิตย์ต่อมา
    "ภูคะ รินพร้อมไปตรวจแล้วค่ะ"เธอกรอกเสียกทางโทรศัพท์
    "กี่โมงดี เจอกันที่โรงบาลเลยนะ"เขานัด
    "ค่ะที่รัก"เธอวางสายพร้อมยิ้มอย่างผู้มีชัย ภูต้องมีรินคนเดียวเท่านั้น พร้อมยกมือถือขึ้นโทรหานักสืบหนุ่ม
    "ปัสสวะคนท้องที่ชั้นให้เตรียมไว้ พร้อมนะ ห้ามผิดพลาดเด็ดขาด"
    "ครับคุณริน เจอกันที่ห้องน้ำโรงบาล แผนกสูตินรี นะครับ"

    ที่โรงพยาบาล ณ.แผนกสูตินรีเวช ห้องนายแพทย์"อรรณพ วชิรทัต"
    "คนไข้ปัสสะวะ ใส่กระบอกนี่นะ แล้วนำมาที่นี่"
    นายแพทย์สั่งต่อหน้าภูมินทร์และรินรดา
    "ค่ะ"รินรดารับกระบอกพร้อมเดินไปที่ห้องน้ำแผนก
    รินรดาอยู่ในห้องน้ำสักพัก ก็มีมือลึกลับส่งกระบอกมาเปลี่ยน เธอรับแล้วรีบเดินออกจากห้องน้ำ

    "ครับพี่ภู พี่รินตั้งครรภ์จริงครับ ผมแนะนำให้ฝากครรภ์เลยดีกว่า"นายแพทย์อรรณพ วชิรทัต น้องชายแท้ๆของนพพงษ์ เอ่ยขึ้นหลังดูผลตรวจ
   "ขอบใจมากอรรณพ ใช่พี่จะให้รินฝากครรภ์ที่นี่เลย"
    ภูมินทร์และรินรดานั่งรอฝากครรภ์ที่แผนกจนเสร็จเรียบร้อย จึงเดินออกจากโรงพยาบาล
    "ไปอำเภอเลยนะคะ"รินเอ่ยขึ้นอย่างมีความสุข
    "ไปเลยก็ได้ริน แต่ผมจะบอกไว้ก่อนนะ ว่าจดแล้วคุณก็เป็นได้แค่ทะเบียนซ้อน เพราะผมเคยจดมาแล้วก่อนคุณ"
    รินรดาอ้าปากค้าง ช็อค นิ่งพูดอะไรไม่ออก