โซ่พยาบาท ตอนที่12

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป แต่กลับไร้วี่แววรินรดาที่จะลงมาเสียที ภูมินทร์เริ่มหงุดหงิด ขยับร่างลุกขึ้นเพื่อขึ้นไปตาม ทันใดนั้น   "ตืด ตืด ตืด"
    
     "ว่าไงอรรณพ"
     ภูมินทร์กดรับสายหมออรรณพ

     "พี่ภูครับ นัดของพี่รินวันนี้ พี่ภูพบหมอคนอื่นเลยก็ได้นะครับ วันนี้ผมลามาทำธุระ"

     "อ้าวแล้วจะทำไงหล่ะ พี่กำลังจะพารินไปอยู่เลยนะเนี่ย"

     "ถ้างั้นเข้ามาวันพรุ่งนี้นะครับ บ่ายโมง"

     "โอเคร ขอบใจมากอรรณพ แล้วเจอกัน"
     ภูมินทร์วางสาย ในขณะที่รินรดาเดินลงมา 

      "วันนี้หมออรรณพไม่อยู่"
      
      "ว้า ! รินแต่งตัวเสร็จแล้วเนี่ย แย่จังเลย เอาไงดีหละคะภู"
       หญิงสาวทำท่าทีเสียดายแต่แววตากลับลิงโลด

       "พรุ่งนี้ค่อยไป เดี๋ยวภูมารับ"

       "พรุ่งนี้ !" หญิงสาวอุทานเสียงดัง

       "ใช่สิ พรุ่งนี้ มีอะไรริน"

       "เปล่าค่ะ"

       วันต่อมาที่โรงพยาบาล หมออรรณพจอดรถที่ลานจอดในโรงพยาบาลหลังจากที่ไปรับหญิงสาวจากห้องเช่ารายวัน ที่เธอเช่าหลังจากออกจากบ้านนนนี่

       "คุณรตีจะเข้าไปพร้อมหมอเลยไหมครับ"
       "รตีว่าจะไปทานอาหารซะก่อน หมอรีบไปเถอะค่ะเดี๋ยวคนไข้จะรอนาน รตีเรียบร้อยแล้วจะตามเข้าไปค่ะ"
       "งั้นหมอขอตัวก่อนละกัน"
       "ค่ะคุณหมอ"หญิงสาวยิ้มให้อย่างมีไมตรี

       ภายในห้องตรวจ

       "ผลตรวจครั้งนี้ปรากฏว่า พี่รินไม่ได้ตั้งครรภ์"
       "หา! ไม่ได้ท้อง" ภูมินทร์อุทาน พร้อมทั้งกระชากแขนรินรดาออกจากห้องตรวจอย่างโกรธจัด จนมาถึงที่ลานจอดรถ

       "รินจะอธิบายผลตรวจนี่ยังไง"
       "รินว่ามันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ หรือว่ารินแท้งเนี่ย โถลูกแม่"เธอแสร้งเสียใจพร้อมลูบท้องตัวเอง
       "อย่ามามารยารินรดา! เห็นภูเป็นตัวอะไร ต่อไปนี้เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก"ชายหนุ่มต่อว่ารินรดาอย่างโกรธจัด พร้อมหันหลังจะกลับไปที่รถ ทันใดนั้น ชายหนุ่มเดินชนเข้ากับรตียา ที่กำลังเดินก้มหน้ามาพอดีอย่างจัง จนหญิงสาวล้มลงเลือดไหลลงสองขาแดงฉาน หญิงสาวรู้สึกหวิวๆจนกระทั่งภาพผู้ชายตรงหน้าดับไป

         


โซ่พยาบาท ตอนที่11

  ที่บ้านเช่าของนนนี่
  "ขอบคุณหมอนะคะ ที่มาส่ง"
  "หมอยินดีครับ วันเสาร์นี้หมอจะมารับ"
  "ค่ะ ดิชั้นจะรอนะคะ"

   ขณะที่เธอเดินเข้าบ้าน
  "รตีมานี่สิคะ"นนนี่เรียกหญิงสาว
  "คะ พี่"เธอขานรับพร้อมเดินไปหา
  "นี่คุณโจนัส เพื่อนพี่เอง เพิ่งมาจากแคนาดา"
  "สวัสดีค่ะ คุณโจนัส"หญิงสาวทักทายพร้อมยกมือไหว้
   "แหมรตี ทำเสียวัฒนธรรมหมด จับมือสิจ๊ะ จับมือ"หล่อนว่าพร้อมดึงมือเธอให้หนุ่มต่างชาติ
   "Nice to meet you" เขาทักทายด้วยสายตากระหาย
   "Nice to meet you too"หญิงสาวทักทายพร้อมรีบดึงมือออก
  
   "รตีขอตัวนะคะ"ว่าพลางรีบเข้าห้องล็อคประตู
   
   "รตีๆๆ คืนนี้ออกไปทานข้าวกับคุณโจนัส เป็นเพื่อนพี่หน่อยนะ"นนนี่เคาะประห้องเรียกหญิงสาวหลังจากเพื่อนต่างชาติกลับแล้ว
   "รตีไม่สบายจริงๆค่ะ พี่นนนี่ คงไปไม่ไหว"
   "พี่ไปเองก็ได้"หล่อนแฝงแผนการไว้ในใจ

   คืนนั้นที่หน้าห้องนอนรตียา
   "ใครหน่ะ พี่นนนี่เหรอคะ"
   เสียงบิดลูกบิดประตูจากภายนอก ทำให้หญิงสาวรู้สึกกลัว เธอรีบกดโทรศัพท์หาหมออรรณพ เพื่อให้มารับ แล้วลงกลอนอย่างแน่นหนา
    ครึ่งชั่วโมงต่อมา
   "ผมมารับคุณรตืครับ"
   "ชั้นเรียกมัน แทบคอจะแตก มันก็ไม่ยอมออกมา"นนนี่หงุดหงิดที่ผิดแผน
   
    "รตี จะย้ายออกคืนนี้เลยค่ะพี่นนนี่"เธอเปิดประตูพร้อมกระเป๋าเดินทางออกมา

   เช้าวันต่อมา ณ.บ้านวิชญทักษิณา
    "จะไปไหนแต่เช้าหะภู"
    "หมอนัดครับ ว่าจะไปหาหมอที่โรงพยาบาล"
    "แกเป็นอะไร ให้หมอตรวจบ้างก็ดี ช่วงนี้ดูซูบไปมากเลย งานที่เหมืองถ้าแกเหนื่อย ก็พักเดี๋ยวพ่อจัดการเอง"
นายหัวภูชิตทักทายลูกชาย ด้วยความห่วงใย
   "ไม่เป็นไรครับพ่อ ผมทำได้ ไม่เหนื่อยอะไร"
   "ผมเผ้า หนวดเครา หัดโกนซะบ้าง ยาวจนจะมองเป็นโจรอยู่แล้ว ดูแลตัวเองบ้าง"
   "ครับพ่อ"ภูมินทร์รับคำบิดาพร้อมเดินออกจากห้องนั่งเล่นมุมโปรดที่บิดานั่งประจำ นายหัวภูชิตได้แต่มองตามด้วยสายตาห่วงใย ครุ่นคิด

     ที่บ้านริมทะเลของรินรดา
    "อะไรคะภู จะมาบังคับอะไรริน ก็รินบอกแล้วว่ารินไม่ว่าง"
    "จะว่างไม่ว่าง ผมไม่สน แต่คุณต้องไปตามหมอนัด แล้วยาบำรุงที่หมอให้มาอยู่ไหน ทานบ้างรึเปล่า"ภูมินทร์เหลือบไปเห็นถุงยาในถังขยะ
    "นี่อะไรริน ยาบำรุงครรภ์หมอให้มาทาน ทำไมมาอยู่ในถังขยะ รินไม่ได้ทานมันเลย มันอะไรกัน นี่รินท้องจริงรึเปล่าหะริน"
    "ภูกำลังจับผิดรินเหรอ รินทานอาหารอื่นๆบำรุงไง ทั้งปลาแซลม่อน ไก่ตุ๋นยา อะไรอีกตั้งเยอะ" รินรดาเถียงข้างๆคูๆ
   "จะอะไรก็ช่าง วันนี้คุณต้องไปโรงพยาบาลกับผม"ภูมินทร์จับมือรินรดาพร้อมฉุดให้เดินตาม
   "รินไม่ไป ภูปล่อยรินนะ ปล่อยสิภู รินเจ็บ"
   "เข้าไปแล้วอย่ามาโวยวายอีก วันนี้ยังไงรินก็ต้องไปหาหมอ"เขาเปิดประตูรถพร้อมดันรินรดาเข้าไปนั่งในรถ
   "แล้วภูจะให้รินไปชุดนี้เหรอ รินอายคนอื่น ให้รินไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะคะภู"เธอออกอุบายเพื่อประวิงเวลาหาทางออก
   "งั้นภูให้เวลาริน ครึ่งชั่วโมง ภูจะรอ"
   "ชั่วโมงนึงนะ"เธอยกนิ้วชี้เป็นการต่อรอง
   "โอเครๆ"

    ภายในห้องนอนรินรดา เธอเดินวนไปวนมาเพื่อหาทางออก กลับฉุกคิดถึงนักสืบจึงรีบกดโทรออก
    "ว่าไงครับคุณรินรดา"
    "ภูเค้าเริ่มสงสัยแล้ว ว่าชั้นไม่ได้ท้อง"
    "ก็ระหว่างที่อยู่ด้วยกัน ผมก็แนะนำคุณรินแล้ว ว่าทำทุกอย่างเพื่อให้ท้องจริงๆ"
    "แล้วภูเค้าเปิดโอกาสให้ชั้นทำไหมหละ วันๆเอาแต่งานๆๆๆ บางวันก็ไม่กลับบ้านด้วยซ้ำ"
    "คุณต้องยอมไปกับเค้า แล้วค่อยโยกโย้ไป คุณคงมีวิธีมั้งครับ แล้วผมจะบอกวิธีที่จะทำให้คุณท้องจริงๆ"
    "โอ๊ย แนะนำได้แค่นี้เหรอ ชั้นอยากจะบ้า แล้วจะทำยังไงให้ท้อง"
    "เดี๋ยวผมติดต่อเข้าไปนะครับ แค่นี้นะครับ"รินรดาวางสายจากนักสืบหนุ่ม ใจกลับคิดหาทางออก
 
    
    
    

โซ่พยาบาท ตอนที่10

  ที่หน้าว่าการอำเภอ
  "ทำไมภูไม่เคยบอกริน เรื่องภูเคยจดทะเบียนแล้ว"รินรดาเอ่ยขึ้นหลังจากที่เงียบมานาน จนกระทั่งทั้งคู่มาถึงหน้าอำเภอ
   "ก็รินไม่เคยถามผมนี่"
   "แล้วมันคือใคร นังนั่นมันคือใครภู บอกรินมาสิ มันคือใคร"หญิงสาวเริ่มฟูมฟาย คะยั้นคะยอชายหนุ่ม พร้อมทั้งหยาดน้ำที่ไหลอย่างสุดกลั้น
   "รตียา"ชายหนุ่มตอบเลื่อนลอย
   "รินจะจด ยังไงรินก็จะจด"รินรดาเอ่ยขึ้นพร้อมปาดน้ำตา

    สองเดือนต่อมา ณ.บ้านเช่าแห่งหนึ่ง
    "ตื่นได้แล้ว มันกี่โมงแล้วย่ะ หาข้าวหาปลามาให้ชั้นซิ"
    "พี่คะ วันนี้รตีว่าจะไปหาหมอ"เธอเอ่ยกับนนนี่หรือนายนนท์ธวัช สาวประเภทสองเจ้าของบ้านเช่าที่ๆเธอมาขอพักพิง
    "อะไรย่ะ ตั้งแต่แกมาอยู่ที่นี่ แกได้ช่วยอะไรชั้นบ้าง งานแม่บ้านบ้าบออะไรที่แกทำอยู่หน่ะมันพอยาใส้ไหม ไปลาออกซะภายใน2-3วัน ถ้าแกขืนโยกโย้เรื่องงานบาร์ที่ชั้นหาให้อีก แกเตรียมเก็บกระเป๋าออกไปนอนข้างถนนเลยนะ"
    "เงินที่รตีช่วยค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ กับพี่นนนี่ ยังไม่พอที่จะให้รตีอยู่ที่นี่เหรอคะ"
    "ไม่พอย่ะ ถ้าแกคิดว่าอยากไปอยู่ที่อื่นก็เชิญ"
    รตียาก้มหน้ามองพื้นพาลน้ำตาหยด

    ที่โรงพยาบาล
    "ยินดีด้วยนะครับ ผลตรวจปรากฎว่าคุณตั้งครรภ์"หมออรรณพกล่าวกับหญิงสาว
    รตียาช็อคกับผลตรวจ ได้แต่นิ่ง อึ้ง เหม่อลอย
   "คุณรตียาครับๆ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ"หมออรรณพเรียกเธอซ้ำๆ 
   "เอ่อ ไม่ๆ ไม่ค่ะ ดิชั้นไม่เป็นไรค่ะ" เธอตอบหมอพร้อมปาดน้ำตา
   "งั้นหมอ จะให้ยาบำรุงครรภ์ไปทานนะครับ แนะนำให้ฝากครรภ์เลยถ้าคุณสะดวก"

   ที่ลานจอดรถโรงพยาบาล
   "แม่คะ หนูอยากกลับบ้าน"รตียาต่อสายหามารดา พร้อมบอกความรู้สึกตัวเองอย่างอ่อนล้า
   "ทำไมหละลูก บ้านเรากำลังถูกยึด กลับมาแล้วเราจะไปอยู่ที่ไหนกัน"
   "เราย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดไกลๆดีไหมค่ะแม่ อยู่อย่างพอเพียง ก็น่าจะอยู่กันได้"
   "หนูเป็นอะไรรึเปล่าลูก บอกแม่ซิ"
   "ไม่ค่ะหนูแค่เบื่อที่นี่ คิดถึงแม่ อยากกลับบ้านค่ะ"เธอพยายามกลืนความรู้สึกที่อัดอั้นปานจะทะลักออกจากอกลงคออย่างยากเย็น
   "จ๊ะรตี เราจะไปด้วยกัน ทุกที่ ต่อไปเราจะไม่จากกันไปไหน กลับมาหาแม่นะลูกนะ"มารดาเอ่ยกับลูกสาวคนเดียวอย่างปลอบโยน พร้อมปาดน้ำตา
   "ค่ะแม่ หนูรักแม่นะคะ"เธอวางสายจากมารดา พร้อมล้วงกระเป๋านำธนบัตรก้อนสุดท้ายออกมานับได้สามหมื่น เธอกำไว้แน่นมองธนบัตรในมืออย่างมีความหวัง แล้วนำใส่กระเป๋าเก็บใส่ตามเดิม เตรียมจะลุกจากฟุตบาทในลานจอดรถ
   หมออรรณพนั่งฟังรตียาอยู่ในรถยนต์ส่วนตัวที่จอดนิ่งในลานจอดรถโรงพยาบาล
   "คุณรตียาครับ"หมออรรณพเรียกหญิงสาวพร้อมเปิดประตูรถ
   "คุณหมออรรณพ มีอะไรหรือคะ"
   "ขึ้นรถก่อนเถอะ ไปไหนเดี๋ยวหมอไปส่ง"
   "เอ่อคือว่า"เธอลังเลที่จะต้องไปกับคนที่เพิ่งรู้จัก
   "ขึ้นเถอะครับ หมอรับรองด้วยเกียรติว่าหมอไม่มีจุดประสงค์ร้ายกับคุณ"
   "ค่ะ"พร้อมรับคำเชิญ
   ภายในรถ
   "คุณรตียาหิวรึเปล่าครับ ทานอะไรรึยัง"
   "ไม่หิวค่ะ ทานแล้ว"เธอตอบหมอหนุ่ม แต่ท้องเจ้ากรรมดันทรยศคำรามอย่างไม่ไว้หน้าเธอสักนิด
   "หมอพาแวะร้านอาหารดีกว่า ผมว่าเด็กในท้องคุณน่าจะหิว"หมอหนุ่มเอ่ยอย่างไม่อยากให้เธอรู้สึกอาย
    ภายในร้านอาหาร
    "สั่งอะไรดีครับ"หมออรรณพยื่นเมนูให้
    "ข้าวผ้ดก็ได้ค่ะ"
    "ข้าวผัดปูทานได้ไหมครับ ที่นี่อร่อยมาก หมอขอการันตี"
     "ได้ค่ะ คุณหมอ"
     "ข้าวผัดปู2ที่ ต้มยำทะเลรสไม่จัด1 แล้วก็หมูแดดเดียว1"หมอหนุ่มสั่งบริกร
     หลังจากทานอาหารเสร็จ
     "ขอโทษนะครับอย่าว่าหมอละลาบละล้วงเลย ทำไมคุณถึงมาโรงพยาบาลคนเดียวครับ แล้วสามีหรือญาติคุณหละ ทำไมไม่ให้พามา"
     "ดิชั้นไม่มีสามีค่ะ"
     "อ้าวแล้ว"หมอหนุ่มหยุดคำถามไว้ในใจ
     "อ๋อ เด็กในท้อง ก็แค่ผลกรรมของผู้หญิงใจง่ายกับผู้ชายมักมากหน่ะคะ"
     "ขอถามอีกสักเรื่อง พอดีหมอได้ยินคุณคุยโทรศัพท์เรื่องจะกลับบ้าน หมอขอโทษจริงๆนะครับ ไม่ได้ตั้งใจแอบฟัง"
     "ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ ดิชั้นไปนั่งข้างรถคุณหมอเอง ไม่ผิดที่หมอจะได้ยิน ค่ะดิชั้นจะกลับบ้านไปอยู่กับแม่"
      "มีอะไรให้หมอช่วยก็บอกได้นะครับ"หมอหนุ่มกล่าวอย่างมีความหวัง
      "คะ"หญิงสาวแปลกใจในความปราถนาดี เพราะประสบการณ์จากที่ผ่านมา
      "หมอหวังดีจริงๆ อย่างเรื่องที่อยู่ ที่ทำกิน หมอมีอยู่ทางภาคอีสานหลายจังหว้ด ทั้งโคราช อุดร หนองคาย หมอรับขายฝากไว้หลายแปลงเลย ถ้าคุณสนใจหมอจะจัดการให้ ยิ่งถ้าแปลงที่โคราชมีบ้านพร้อมอยู่เลย"
     "คุณหมอพูดจริงเหรอคะ"เธอถามเพราะยังลังเลที่คนเพิ่งรู้จักแต่กลับจะยื่นความช่วยเหลือที่ไม่น่าจะให้กันได้ง่ายๆถ้าไม่ใช่ญาติหรือสามี-ภรรยา
      "พูดจริงสิ หมออยากช่วยจริงๆ"เขาบอกพร้อมส่งสายตาแห่งความห่วงใยให้
      "ถ้าได้จริงๆ ก็ดีสิคะ"เธอพูดอย่างตื่นเต้นพร้อมแววตาแห่งความหวัง
      "อาทิตย์หน้าหมอต้องไปดูโรงพยาบาลที่ต้องย้ายไปภายในอีก6เดือนข้างหน้า ถ้าพร้อมเราจะไปกันเลยดีไหม คุณก็โทรบอกแม่ให้เตรียมตัวรอเลย"
      "ค่ะ คุณหมอ"เธอรับคำพร้อมมโนภาพอนาคตที่เริ่มเห็นแสงรำไรๆที่ปลายอุโมงค์
  

    

โซ่พยาบาท ตอนที่9

  ภายในคืนเดียวกันในขณะที่รตียากำลังสับสน หญิงสาวพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้านั่งอยู่ริมชายหาด ดูอย่างไรก็เหมือนสาวต่างจังหวัดที่เข้ามาหางานทำ สาวประเภทสองคนหนึ่งนั่งสังเกตรตียาอยู่นาน จึงตัดสินใจเดินเข้ามาคุยด้วย
   "มาหางานทำเหรอคะ"สาวประเภทสองเปิดฉากทักทายก่อนอย่างมีไมตรี
   "เอ่อ ดิชั้น คือว่า..."เธอกระอึกกระอักที่จะตอบคำถาม เพราะเธอก็ยังสับสนในชีวิตว่าเธอจะทำอย่างไรต่อไป
   "มีอะไรก็บอกกันได้นะคะ เห็นนั่งอยู่อย่างนี้นานแล้ว เป็นห่วงหน่ะค่ะ"หล่อนจีบปากจีบคอพูดเพื่อให้เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้นที่จะกล้าคุยกับคนที่เพิ่งจะรู้จักครั้งแรก
    "คือดิชั้นมีปัญหากับเพื่อนที่ห้องหน่ะคะ เลยอยากออกมาหาห้องพักเล็กๆเช่าอยู่ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่รู้จักที่ไหนเลย"เธอรู้สึกว่าผ่อนคลายขึ้นที่จะเล่าปัญหาที่เธอกำลังเผชิญแก่เพื่อนใหม่กายเป็นชายแต่ใจเป็นหญิง
    "แล้วมีงานทำที่นี่แล้วเหรอ"หล่อนถามหญิงสาว
    "ยังเลยค่ะ ว่าจะหาห้องให้ได้ก่อน แล้วก็จะหางานต่อค่ะ"
    "เอาอย่างนี้ดีไหม วันนี้คงจะหาห้องไม่ทัน ถ้าเธอเชื่อใจชั้น ก็ไปพักที่ห้องชั้นก่อนดีไหม"หล่อนเสนอ
    "จะดีเหรอคะ ดิชั้นเกรงใจหนะคะ"
    "ไม่ต้องเกรงใจ ชั้นพักอยู่กับเพื่อนผู้หญิงอีกคน บ้านที่ชั้นเช่ากันอยู่มีตั้ง3ห้อง อีกห้องนึงมันว่างอยู่ ก็พักไปก่อน เรื่องงานเดี๋ยวชั้นจัดการให้"หล่อนตอบหญิงสาวพร้อมเสนอต้วเรื่องหางานให้อย่างมีนัยแอบแฝง
    "ถ้ายังไงดิชั้นจะช่วยเรื่องค่าน้ำ ค่าไฟนะคะ"เธอตกลงเพราะเวลาแบบนี้คงหาความปลอดภัยไม่ได้ดีกว่านี้อีกแล้ว

    ทางฝ่ายภูมินทร์ ที่คอนโด เขาพยายามเดินหาจดหมายหรืออะไรก็ได้ ที่จะสามารถบอกเหตุผลที่ทำให้ภรรยาสุดที่รัก ต้องหอบเสื้อผ้าหนีเขาไปอย่างนี้ เขาเห็นโทรศัพท์ที่หญิงสาวใช้เป็นประจำตกอยู่ที่พื้นจึงเก็บขึ้น เพื่อหวังจะเปิดดูให้มันคลี่คลาย แต่ทว่าแบตหมดและปัญหาคือ"ไม่มีที่ชาร์ตแบต สำหรับมือถือรุ่นนี้" 
     "คุณหนีผมทำไมรตี ผมไม่ดีตรงไหน ผมผิดอะไร"เขาคิดวนไปมาพร้อมน้ำตาลูกผู้ชายที่คลอสองตาคู่นั้น เขาพยายามสะกดกลั้นอย่างสุดความสามารถแต่ก็แพ้ต่อความรู้สึกต้องปล่อยให้มันไหลออกมาอย่างผู้พ่ายแพ้
     เขาเหลือบไปเห็นซองสีขาวที่สอดมาจากช่องประตู เขารีบนำมันออกมาอ่าน
    "คุณภูคะ ถ้าคุณได้อ่านจดหมายฉบับนี้ ดิชั้นกับแฟนใหม่ชาวอเมริกันของดิชั้นคงเดินทางมาไกลมากแล้ว ดิชั้นขอโทษนะคะที่ไม่สามารถอยู่กับคุณต่อไปได้อีก ทางบ้านดิชั้นก็กำลังจะถูกยึด แม่และครอบครัวดิชั้นกำลังลำบาก ดิชั้นต้องเลือกที่จะรักษาครอบครัวไว้ ไม่ต้องตามหานะคะ เพราะอย่างไรดิชั้นก็ยืนยัน เลือกความสบายจากคุณไบรอัล มากกว่าคุณ"
    ชายหนุ่มอ่านพร้อมน้ำตาแห่งผู้แพ้
    "ผู้หญิงอย่างเธอ มันก็แค่ผู้หญิงเห็นแก่เงินคนหนึ่ง อ้างเรื่องครอบครัวที่แท้ก็เห็นแก่ความสบาย ทีก่อนหน้าไม่เห็นจะบอกเรื่องปัญหา ตอนนี้กลับเอาครอบครัวมาอ้าง นังแพศยา"ชายหนุ่มคำรามเมื่ออ่านจดหมายที่*รินรดา*นำมาสอดไว้ก่อนหน้าที่ ชายหนุ่มจะกลับมาถึงไม่ถึงสองชั่วโมง

    อีกหนึ่งอาทิตย์ต่อมา
    "ภูคะ รินพร้อมไปตรวจแล้วค่ะ"เธอกรอกเสียกทางโทรศัพท์
    "กี่โมงดี เจอกันที่โรงบาลเลยนะ"เขานัด
    "ค่ะที่รัก"เธอวางสายพร้อมยิ้มอย่างผู้มีชัย ภูต้องมีรินคนเดียวเท่านั้น พร้อมยกมือถือขึ้นโทรหานักสืบหนุ่ม
    "ปัสสวะคนท้องที่ชั้นให้เตรียมไว้ พร้อมนะ ห้ามผิดพลาดเด็ดขาด"
    "ครับคุณริน เจอกันที่ห้องน้ำโรงบาล แผนกสูตินรี นะครับ"

    ที่โรงพยาบาล ณ.แผนกสูตินรีเวช ห้องนายแพทย์"อรรณพ วชิรทัต"
    "คนไข้ปัสสะวะ ใส่กระบอกนี่นะ แล้วนำมาที่นี่"
    นายแพทย์สั่งต่อหน้าภูมินทร์และรินรดา
    "ค่ะ"รินรดารับกระบอกพร้อมเดินไปที่ห้องน้ำแผนก
    รินรดาอยู่ในห้องน้ำสักพัก ก็มีมือลึกลับส่งกระบอกมาเปลี่ยน เธอรับแล้วรีบเดินออกจากห้องน้ำ

    "ครับพี่ภู พี่รินตั้งครรภ์จริงครับ ผมแนะนำให้ฝากครรภ์เลยดีกว่า"นายแพทย์อรรณพ วชิรทัต น้องชายแท้ๆของนพพงษ์ เอ่ยขึ้นหลังดูผลตรวจ
   "ขอบใจมากอรรณพ ใช่พี่จะให้รินฝากครรภ์ที่นี่เลย"
    ภูมินทร์และรินรดานั่งรอฝากครรภ์ที่แผนกจนเสร็จเรียบร้อย จึงเดินออกจากโรงพยาบาล
    "ไปอำเภอเลยนะคะ"รินเอ่ยขึ้นอย่างมีความสุข
    "ไปเลยก็ได้ริน แต่ผมจะบอกไว้ก่อนนะ ว่าจดแล้วคุณก็เป็นได้แค่ทะเบียนซ้อน เพราะผมเคยจดมาแล้วก่อนคุณ"
    รินรดาอ้าปากค้าง ช็อค นิ่งพูดอะไรไม่ออก

โซ่พยาบาท ตอนที่8

    ณ.คอนโดหรู
    ร่างบอบบางของหญิงสาวฟุบหน้าสะอึกสะอื้น ภายในห้องสีขาวบริสุทธิ์ ภายในใจของหญิงสาวสับสน วุ่นวาย คิดวกวนจนจับต้นชนปลายไม่ถูก 
    {รตีทำไมเธอโง่ๆๆขนาดนี้ แค่เค้าบอกว่ารัก ก็ยอมเป็นของเค้าง่ายๆ เธอมันโง่ๆๆๆจริงๆ}เธอตำหนิตัวเองซ้ำๆ พร้อมร่างบางสะอึกสะอื้นจนเหมือนใจจะสลาย
    เวลาผ่านไปนานแค่ไหนเธอไม่รู้ แต่แสงอ่อนที่กระทบม่านตาทำให้เธอรู้สึกตัว เธอมองที่นอนว่างเปล่าข้างกายอย่างเจ็บปวด ลูบไล้ที่นอนนั้นอย่างอาลัยอาวรณ์ ก่อนที่จะพยุงร่างที่อ่อนแรงขึ้นช้าๆ หญิงสาวตัดสินใจเก็บเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวใส่กระเป๋า เธอถอดแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายวางไว้ที่โต๊ะเครื่องแป้งด้วยมือที่สั่นเทา ก่อนก้าวออกจากห้องหรูด้วยหัวใจที่แหลกเหลวไม่มีชิ้นดี
    
     ที่รีสอร์ทหรูที่พังงา
     "รินๆ ผมจะกลับแล้ว ตื่นเถอะ"
     "ภูคะ รินเพลียมากเลย นอนต่อสักพักนะคะ"
     "ถ้าคุณจะพักต่อก็พักนะ ผมจะไปทำงานก่อน จะกลับก็โทรมาหาผมๆจะให้คนมารับ"
     "ภูค่ะ ริน....โอ๊ก"เธอวิ่งเข้าไปอาเจียนในห้องน้ำ
     "ไหวไหมริน ไปโรงบาลเถอะ ไม่ต้องรอแล้ว จะได้ให้หมอตรวจให้แน่ใจ ถ้ายังไงคุณก็ต้องฝากท้อง คุณอาเจียนทั้งคืน เดี๋ยวจะไม่ไหวนะ"ภูมินทร์ออกข้อเสนอเพราะห่วงหญิงสาวและอยากให้หมอตรวจให้แน่ใจ
     "ไม่เป็นไรค่ะ รินดูแลตัวเองได้ ภูไปทำงานเถอะ"หญิงสาวกล่าวพร้อมอาเจียนต่อแต่แววตาของเธอส่อให้รู้ว่าแผนของเธอสำเร็จไปแล้วหนึ่งขั้นตอน

      ในขณะเดียวกันที่ภูเก็ต
      หญิงสาวเดินอย่างไร้จุดหมายจนรู้สึกเหนื่อยล้า เธอนั่งพักอยู่หน้าชายหาดที่คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติหญิง-ชาย ที่อาบแดดบ้าง เล่นน้ำบ้าง กิจกรรมทางน้ำบ้าง เธอนั่งมองภาพเบื้องหน้าอย่างเลื่อนลอย จนในนาทีนี้เธอก็ยังไม่รู้ว่าจะดำเนินชีวิตต่ออย่างไร

        ทางบ้านที่นนทบุรี
       "คุณรพีพรครับ เราผ่อนผันมาให้คุณหลายครั้งแล้ว คุณไม่ได้ชำระทางธนาคารเลย เราจะให้เวลาคุณเข้าไปเคลียร์จนถึงสิ้นเดือน กรุณาแก้ไขยอดค้างให้อยู่ในสถานะปรกติ ถ้าอย่างนั้นเราจำเป็นต้องยื่นฟ้องเพื่อนำบ้านขายทอดตลาดต่อไปนะครับ
      คุณรพีพรได้แต่ก้มหน้าฟังเจ้าหน้าที่ธนาคารซึ่งมาถึงบ้านเธอ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ขอตัวกลับ เธอจึงรีบคว้าโทรศัพท์กดโทรหาลูกสาว สัญญาณดังแล้วดังอีกจนกระทั่งดับไป 《ทำไมไม่รับสายนะ รับสายหน่อยเถอะ》คุณรพีพรนั่งภาวนาให้รตียารับสาย เพราะเธอคือความหวังสุดท้ายที่จะรักษาบ้านหลังนี้ไว้ได้

        ทางฝ่ายนักสืบที่รินรดาได้ว่าจ้างไว้
       "ฮัลโหล มีอะไรเดี๋ยวติดต่อกลับนะคะ"รินรดารับสายนักสืบหนุ่มพร้อมตัดบทสนทนา ในขณะนั่งรถกลับจากรีสอร์ทไปเหมืองแร่ พร้อมภูมินทร์หลังจากที่คุยตกลงจะไปตรวจพร้อมฝากครรภ์ หลังจากนี้อีกหนึ่งอาทิตย์

       "มีอะไรคืบหน้ารึเปล่า เห็นโทรมา"หญิงสาวรีบโทรกลับเมื่อลงจากรถชายคนรักและเขาเดินเข้าห้องทำงานไปแล้ว
       "คือผมจะโทรรายงานว่า เมื่อสักครู่ มีพนักงานธนาคารมาพบคุณรพีพรที่บ้าน ผมบันทึกเสียงสนทนาไว้แล้ว เดี๋ยวผมจะส่งไปให้คุณรินฟังนะครับ"
      "ส่งมาทางไลน์ไว้เลย แค่นี้นะ ถ้าไม่รีบด่วนอะไรก็ไม่ต้องโทรมา แล้วไว้ชั้นจะติดต่อเข้าไปเอง"

     ภูมินทร์หงุดหงิดที่พยายามโทรอย่างไร แต่รตียากลับไม่รับสาย ในขณะที่รินรดากลับเข้ามาที่ห้องทำงาน "เป็นอะไรค่ะ ดูสีหน้าหงุดหงิดจังเลย อย่าทำหน้าอย่างนี้สิค่ะ อย่าลืมสิค่ะ ว่าที่คุณพ่อ ทำหน้าให้สดชื่นให้สมที่ได้ฟังข่าวดีสิคะ"รินรดาพูดพลางลูบที่เคราชายหนุ่มพร้อมมองสบตาอย่างหวานชื่น
    "คุณขับรถกลับไปก่อนผมนะ แล้วอาทิตย์หน้าเราไปตรวจ แล้วจะได้ฝากครรภ์เลย"
    "คุณสัญญาแล้วนะคะ ถ้ารินตรวจแล้วฝากครรภ์แล้ว เราจะจดทะเบียนกันทันที"
    "ผมรู้น่าริน ผมสัญญาลูกผู้ชาย กล้าทำกล้ารับอยู่แล้ว"
    "รินกลับก่อนนะคะ แล้วจะรอคุณค่ะ"เธอหอมแก้มชายหนุ่มพร้อมหันเดินกลับอย่างผู้ชนะ แต่กลับทิ้งความกังวลอย่างหนักไว้ให้ชายหนุ่มต้องเผชิญ

    เวลาล่วงเลยจนกระทั่งความมืดเริ่มเข้าปกคลุมพี้นที่ทีละน้อยๆ จนแสงสุดท้ายแห่งวันใกล้จะจมลงสู่ทะเลอันดามันกว้างสุดลูกหูลูกตาที่อยู่เบื้องหน้า นักท่องเที่ยวต่างทยอยกันกลับเคหสถานทีละคนๆ จนแทบจะไม่เหลือใครอยู่รอบๆ แต่หญิงสาวก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลุกไปไหน
    
     ชายหนุ่มขับรถอย่างเร่งรีบเพื่อให้ถึงที่หมายให้เร็วที่สุด เมื่อมาถึงที่คอนโดเขาแทบไม่รอรถจอดให้สนิท รีบวิ่งไปที่ลิฟท์กดมันซ้ำๆ ในใจชายหนุ่มดั่งมีไฟประลัยกัลป์สุมอยู่ที่อก 
      "รตีๆ ผมกลับมาแล้ว"เขาเรียกหาหญิงสาว พลางเปิดห้องต่างๆดู แต่กลับไร้แม้แต่เงาของสิ่งที่เขาตามหา ใจชายหนุ่มเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขารีบเปิดห้องนอนเพื่อดูตู้เสื้อผ้า เหลือแค่เสื้อผ้าของตัวเองที่เธอเคยเตรียมให้ชายหนุ่มทุกเช้า ก่อนไปทำงาน เขารีบมองหาสิ่งของอื่นของหญิงสาวอย่างบ้าคลั่ง เมื่อชายหนุ่มเห็นแหวนที่หญิงสาวถอดวางไว้ เขาถึงกลับหมดแรงพยุงตัวให้ยืนต่อได้ ทรุดลงกับพื้นพร้อมปล่อยโฮ ออกมาอย่างสุดจะกลั้นไว้ได้อีกต่อไป
     

โซ่พยาบาท ตอนที่7

   อีกหนึ่งอาทิตย์ต่อมา
   ที่เหมืองแร่พังงา
   "ยุ่งอยู่รึเปล่าคะภู"เสียงรินรดาถามมาตามสาย
   "ไม่ยุ่งหรอกครับ รินมีอะไรกับผมรึเปล่า"เขาตอบเธอตามสาย ในขณะที่นั่งในห้องทำงานที่เหมือง
   "รินกำลังจะขับรถเข้าไปหาภูที่เหมือง รินเห็นภูเงียบไป คงจะยุ่ง รินเลยขับมาเอง"เธอนึกโมโหตัวเองที่ติดเครื่องดักฟังไว้ที่คอนโด แต่เครื่องกลับไม่ทำงาน เธอจึงตัดสินใจมาหาชายหนุ่มเอง
   "รินจะมาทำไมให้เหนื่อย โทรนัดผมในภูเก็ตก็ได้ ผมกลับทุกวัน"
   "ไม่เป็นไรค่ะ รินใกล้ถึงแล้ว"
   
    ที่ห้องทำงานภูมินทร์ เหมืองพังงา
   "ภูค่ะ คิดถึงจังเลย"รินรดาโผเข้ากอดชายหนุ่มด้วยความคิดถึง
   "ริน อย่าทำอย่างนี้ ปล่อยผม นี่มันที่ทำงานนะริน"ชายหนุ่มรีบเบี่ยงตัวออกจากอ้อมแขนหญิงสาว
   "ทำไมค่ะภู เมื่อก่อนนี้ ตรงไหนเราก็กอดกันได้ ทำไมตอนนี้ เราถึงกอดกันไม่ได้"เธอพูดอย่างน้อยใจพร้อมน้ำใสๆคลอที่ดวงตา
   "มันไม่ใช่อย่างนั้น แต่ผมไม่อยากให้พนักงานเห็น มันไม่สมควร"เขาปลอบเธอเมื่อเห็นน้ำตาของหญิงสาว
   "เอางี้คุณนั่งรอผมสักครู่ ผมเคลียร์งานเสร็จ เราไปหาร้านสงบๆนั่งคุยกัน"
   "ไปรีสอร์ทเพื่อนริน แถวท้ายเหมืองนะคะ มีร้านอาหารบรรยากาศดีมากเลย"เธอเสนอพร้อมจับมือชายหนุ่ม
   "รินอยากไปที่ไหนก็ตามใจริน"เขาบอกพร้อมรีบเร่งทำงานให้เสร็จ

   ที่ร้านอาหารภายในรีสอร์ทหรู
   หลังจากพนักงานนำอาหารมาเสริฟ"
   "น่าทานทั้งนั้นเลยค่ะภู"เธอบอกพร้อมตักอาหารใส่จานของภูมินทร์
   "คุณทานเถอะริน เราจะได้รีบๆ คุยธุระกัน"
   "ทำไมต้องรีบเร่งขนาดนั้นเลยเหรอคะ นี่เรามาทานอาหารนะคะ น่าจะเป็นเวลาที่สบายๆ รินไม่เจอกับภูเลยเกือบสองเดือนแล้ว รินก็ไม่รบกวนภู กลัวภูจะรำคาญ ทำไมคะ"เธอวางช้อนลงบนจานอาหาร แต่สายตามองชายหนุ่มอย่างตัดพ้อระคนน้อยใจ
    "รินคือ...ผม"ชายหนุ่มกระอักกระอ่วนใจที่จะพูดความในใจ
    "วันนี้รินขออยู่ใกล้ๆภูนะคะ รินมีอะไรตั้งหลายอย่างอยากบอกภู นะคะภู"เธอตีหน้าเศร้าออดอ้อนชายที่ตนรักสุดใจ
    "ผมมีนัดลูกค้า ที่ภูเก็ตคืนนี้"ชายหนุ่มบ่ายเบี่ยง
    "รินไปพบลูกค้ากับภูก็ได้"เธอไม่ละความพยายาม"เราจะได้มีเวลาคุยกันไงคะ"
    "ก็ได้ๆริน ผมขอโทรเลื่อนลูกค้าก่อน"
    ภูมินทร์ต่อสายหารตียา ในขณะที่หญิงสาวกำลังสาละวนกับการทำอาหารค่ำไว้รอชายหนุ่ม จึงทำให้ไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์
     "ทำไมไม่รับสายเนี่ย"ชายหนุ่มบ่น พร้อมทั้งพยายามโทรอีก 
     
     "ลูกค้ายังไม่รับสายเลยริน"เขาบอกเธอในขณะที่กำลังนั่งลง
     "เดี๋ยวค่ำๆอีกนิด ค่อยโทรสิคะ ตอนนี้คงกำลังยุ่ง"

      หลังจากทานอาหารเสร็จเรียบร้อย รินรดาจัดการเปิดห้องพักที่รีสอร์ท
      "สวยนะคะ"รินรดาพูดขึ้น ในขณะที่เดินเล่นอยู่ที่ชายหาดยามโพล้เพล้ "รินไม่ได้มีความสุขอย่างนี้มานานแล้ว ตั้งแต่พ่อกับแม่จากไป ถึงท่านจะทิ้งสมบัติมากมายไว้ให้ แต่ไม่เคยมีวันไหนเลยที่รินจะไม่เหงา"เธอรำพึงให้เขาฟัง "แล้วภูยังจำคำสัญญาที่ภูเคยให้รินวันที่พ่อแม่เสียชีวิตได้ไหม วันนั้นรินร้องไห้หนักมาก ภูบอกกับรินว่า [ภูจะดูแลรินเอง]ตอนนี้ภูยังอยากทำตามคำพูดอยู่ไหม"
     "รินผม..."เขามองหญิงสาวอย่างเห็นใจ แต่ในใจอยากจะบอกสิ่งที่อยู่ในใจ
     "ช่างเถอะ รินว่าเรากลับห้องกันเถอะ แล้วภูอย่าลืมโทรหาลูกค้าด้วย รินจะรอที่ห้อง"เธอรีบตัดบทเพราะกลัวคำตอบที่ได้ยิน พร้อมทั้งก้มหน้าปาดน้ำตาเดินไป

     "ค่ะคุณภู วันนี้รตีทำแต่อาหารที่คุณภูชอบ เยอะเลย ถึงไหนแล้วคะ"รตียารับสายสามีเสียงสดใส
    "รตี วันนี้ผมติดลูกค้าที่พังงา วันนี้คงไม่ได้กลับ"เขาบอกภรรยา
    "เหรอคะ แล้วพรุ่งนี้ละคะ"เธอถามสามีน้ำเสียงสลด พร้อมมองอาหารตรงหน้า สีหน้าผิดหวัง
   "พรุ่งนี้ผมกลับครับ คิดถึงคุณจัง แค่นี้ก่อนนะรตี จุ๊บๆ"

      ภายในห้องที่รีสอร์ท
    "คุณมีอะไรจะบอกผมเหรอริน"
    "จะรีบรู้ทำไม ไปอาบน้ำก่อนเถอะค่ะ มีเวลาคุยกันทั้งคืน"ว่าพลางแกะกระดุมเสื้อให้
    "ไม่ต้องริน ผมจัดการเอง"ว่าแล้วก็คว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ

     ในขณะที่ชายหนุ่มอยู่ในห้องน้ำ เธอใช้มือถือภูมินทร์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อกดโทรหารตียา และเอาใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อตามเดิม
     ทางฝ่ายรตียาซึ่งกำลังนั่งทานอาหารอย่างโดเดี่ยวท่ามกลางอาหารมากมาย เมื่อเห็นเบอร์โทรสามีก็ดีใจ รีบกดรับสาย
     "ค่ะคุณภู เปลี่ยนใจเหรอคะ"เธอถามแต่กลับเงียบจากปลายสาย
     "คุณภูคะ คุณภู เป็นอะไรรึเปล่า ตอบรตีหน่อยค่ะ คุณภู"แต่กลับได้ยินเสียงชายหนุ่มคุยกับใครสักคนที่ไม่ใช่เธอๆนิ่งฟัง
     "ผมพร้อมแล้วริน มีอะไรจะบอกผมเหรอ"ชายหนุ่มกล่าวพร้อมนั่งลงที่ปลายเตียงหลังจากออกมาจากห้องน้ำ
     "รินท้องค่ะภู"
     "ท้อง ท้องได้ยังไง หะริน ท้องได้ไง คุณบอกผมว่าป้องกันทุกครั้งไง แล้วจะท้องได้ยังไง"ภูมินทร์แทบจะคลั่งเมื่อได้ฟังเรื่องที่รินรดาเล่า
     "รินก็ไม่รู้ แต่อาทิตย์ที่แล้วรินไปตรวจ หมอบอกว่ารินท้องได้ประมาณ3เดือนแล้ว"เธอแกล้งร้องแต่สายตามองไปที่โทรศัพท์ที่เสื้อของภูมินทร์
    โทรศัพท์หลุดจากมืออ่อนแรงของรตียา น้ำตาแห่งความรู้สึก สับสน ผิดหวัง อ่อนล้าหมดแรง ถาโถมเข้ามาในจิตใจดวงน้อยของหญิงสาว อย่างไม่สามารถจะหยุดลงได้เลย
      

     

โซ่พยาบาท ตอนที่6

   ที่บ้าน วิชญทักษิณา
   "เมื่อคืนนอนที่ไหน ทำไมไม่กลับบ้าน"นายหัวภูชิตผู้เป็นบิดาถามภูมินทร์ ในขณะที่เขาเดินเข้าบ้าน
   "ผมนอนที่ห้องทำงาน ที่ผับครับพ่อ"เขาตอบโดยไม่สบตา
   "นอนกับใคร"
   "ก็ไอ้นพไงพ่อ"
   "เหรอ แล้วงั้น คนนี้ชื่ออะไร"นายภูชิตถาม ในขณะที่นพพงษ์ เดินถืออาหารใต้ของโปรดนายภูชิตออกมา
   "นพ"ชายหนุ่มอึ้งที่เห็นนพพงษ์เดินออกมา
      ก้มหน้ายอมรับสิ่งที่โกหกออกไป
   "โกหกพ่อทำไม"
   "ผมว่าจะบอกพ่อ หลังจากเรื่องอะไรๆ มันคลี่คลายก่อนครับพ่อ"เขาตอบบิดา พลางชำเลืองมองเพื่อนที่กำลังส่งแววตาขอโทษมาให้
   "แล้วเรื่องอะไร ที่มันต้องทำให้ภูต้องโกหกพ่อ"
   "ผมขอจัดการเรื่องให้เรียบร้อยก่อนนะครับพ่อ ผมบอกพ่อแน่ๆ"เขาพูดด้วยแววตาขอร้องระคนอึดอัด
   "พ่อว่าจะไมยุ่งเรื่องของภู แต่พ่อเห็นแล้วเป็นห่วง ภูไม่เคยเป็นอย่างนี้ เอาเถอะอยากเล่า เมื่อไหร่ค่อยเล่าก็ได้"
   "ขอบคุณครับพ่อ"พูดพร้อมยกมือไหว้ ก่อนขยิบตาให้นพพงษ์เดินตามออกมา

    ที่ห้องนอนภูมินทร์
   "ลมบ้า ลมบออะไร พัดนายมาวันนี้"ภูมินทร์เขกหัวเพื่อนเบาๆ
   "เราเห็นนายกลับมา เราเลยอยากซื้ออะไรมากินกับนายที่บ้าน ไม่คิดว่านายจะไม่กลับบ้าน"นพพงษ์บอกพร้อมลูบศรีษะตัวเอง
   "แล้ว..."
   "เงียบไปเลย แค่นายอ้าปาก เราก็รู้ว่าจะพูดอะไร"เขาดุเพื่อนพร้อมส่งสายตา
   "บอกหน่อยก็ไม่ได้"นพพงษ์ส่งสายตาทะเล้น
  
   ที่สปาหรูแห่งหนึ่งในตัวเมืองภูเก็ต
   "ว่าไง มีอะไรคืบหน้า"รินรดาถามนักสืบตามสายโทรศัพท์
   "เมื่อวานนี้รตียาติดต่อกลับไปที่บ้าน คุยเรื่องเงินกู้แบงค์ ค้างชำระอะไรประมาณนี้ครับคุณริน"
   "แล้วคุยเรื่องอื่นอีกไหม"
   "ไม่ครับ แค่ถามสารทุกข์ สุขดิบ ตามภาษาแม่ลูก"
   "ดี มีอะไรคืบหน้า โทรมารายงานชั้นตลอด ครั้งหน้าถ้าเป็นไปได้ บันทึกเสียงเลย ชั้นจะฟ้งเอง"
   "ครับ คุณริน"นักสืบหนุ่มวางสาย
    
     เมื่อถึงวันที่กลับเหมืองแร่พังงา
    "ผมว่าจะให้คุณอยู่ที่นี่ ไม่ต้องไปกลับผม ผมจะดูแลคุณเองนะรตี"บอกพร้อมกอดไว้ที่อก
    "ทำไมคะคุณภู รตีทำได้ งานก็ไม่ได้ลำบากอะไร"
    "อยู่นี่แหละ ผมจะไปกลับทุกวัน ภูเก็ต-พังงา ไม่ไกลเลยนะ"ชายหนุ่มขอเพราะไม่อยากให้บิดา รู้เรื่องไปมากกว่านี้
     "ค่ะ"
     "ผมต้องไปละ คืนนี้จะรีบกลับ"ว่าพร้อมกับจูบหน้าผากหญิงสาว

     ขณะขับรถกลับพังงา
     "ภูคะ วันนี้รินว่าง เจอกันได้ไหม"เธอถามเสียงสดใส แต่แววตาเต็มไปด้วยแผนร้าย
     "ริน ผมรอคุณตั้งหลายวัน ไม่โทรมา แต่โทรวันผมกลับ"ชายหนุ่มพูดสายขณะขับรถ
     "วันนี้ไม่ว่างก็ไม่เป็นไร เจอกันวันไหน รินมีอะไรจะบอกภูค่ะ"
     "ได้ ผมก็มีเรื่องอยากจะคุยกับคุณเหมือนกัน"เขาวางสายพร้อมถอนหายใจยาว

      รินรดาวางสายจากภูมินทร์ เธอมองขึ้นไปบนคอนโดหรูอย่างเคียดแค้น
       "ถ้ามีแก ต้องไม่มีชั้น ถ้ามีชั้นมันต้องไม่มีแกนังรตี"เธอบีบโทรศัพท์ราวกับต้องการให้มันแตกเป็นเสี่ยงๆ
    
      ภายในห้องที่คอนโดขณะที่รตียาทำความสะอาด เธอเหลือบเห็นธนบัตรพร้อมกระดาษ"เอาไว้ติดตัวเวลาอยากได้อะไร คืนนี้ผมอยากกิน กุ้งผัดสตอ"เธออ่านแล้วยิ้มพลางบ่น"จะทำเป็นได้ไง ไม่ใช่คนใต้ซะด้วย"ว่าแล้วรีบทำงานเพื่อจะรีบไปตลาด

     ในขณะที่รตียาข้ามถนนหน้าคอนโด
    《เอี๊ยด.....》เสียงเบรครถดังขึ้น พร้อมรถหักหลบจนเกือบชนร่างรตียา แต่เธอเสียหลักล้มลง
     "เป็นอะไร รึเปล่าคะ"สุภาพสตรีคนขับลงมาถาม พร้อมพยุงรตียา
     "ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เป็นไร ดิชั้นเดิน ไม่ระวังเอง ขอโทษค่ะ"
     "แล้วนี่ คุณจะไปที่ไหนคะ เดี๋ยวชั้นไปส่งให้"รินรดาเอ่ยถามตามแผน
     "เอ่อคือ กำลังจะไปตลาดค่ะ"
     "ชั้นก็กำลังจะไปตลาดพอดีเลย ไปด้วยกันเลยสิคะ"
     "ขอบคุณคะ"
     "ชั้น รินรดา เรียกรินก็ได้คะ"
     "ดิชั้น รตีคะ"
     
    ที่ตลาด
     "มาซื้ออะไรคะ จะทำอะไรกิน"
     "อ๋อคะ พอดีสามีดิชั้น เค้าอยากกินสตอผัดกุ้งหน่ะค่ะ"เธอตอบรินรดา
     "แหม เหรอคะ ชอบกินเหมือนสามีดิชั้นเลย"เธอบอกพร้อมเน้นเสียง
     "คุณเคยทำเหรอคะ ต้องใช้อะไรบ้าง ช่วยแนะนำด้วยนะคะ"รตียาดีใจที่จะได้มีผู้สอน
      หลังจากซื้อของเรียบร้อย
     "สามีคุณ คงรักคุณมากนะคะ เค้าอยากทานอะไรคุณคงทำได้ทุกอย่าง"รตียาเอ่ยชม
     "เมื่อก่อนเค้าก็รักคะ แต่ตอนนี้...."เธอเงียบไป รตียาได้แต่มองหน้ารอฟังต่อ"เค้ามีคนอื่น"รินรดาบอกเสียงเครือ
     "ขอโทษนะคะ ที่ทำให้ไม่สบายใจ"
     "ไม่เป็นไรคะ ชั้นชินแล้ว ยังไงชั้นก็ต้อง อยู่เพื่อลูก"ว่าพลางลูบที่ท้องตนเอง
     "คุณรินท้อง เหรอคะ"เธออุทาน"แล้วสามี คุณรู้รึยัง ต้องบอกเค้านะคะ เรามาก่อน อย่าไปยอมง่ายๆ"เธอยื่นมิอจับรินรดาอย่างเห็นใจ ในขณะอยู่ในรถระหว่างขับกลับคอนโด เพราะรินรตาเธออาสาสอนทำอาหารให้

     ห้องที่คอนโด สองสาวช่วยกันทำอาหารจนเสร็จแล้ว รินรดาจึงขอตัวกลับหลังจากติดเครื่องดักฟังสำเร็จแล้ว
     "ขอบคุณนะคะ ช่วยได้เยอะเลย ดิชั้นไม่เก่งเรื่องทำอาหารค่ะ ต่างจากคุณทั้งสวย ทั้งทำอาหารเก่ง โอกาสหน้าขอรบกวนอีกนะคะ"
    "ได้สิ ชั้นว่างเสมอ สำหรับคุณ"เธอตอบอ่อนหวาน แต่ในใจเหมือนไฟสุม

     สองทุ่มที่คอนโด
    "รตีๆ ผมกลับมาแล้ว"เขาเรียกพร้อมเดินหา
    "อยู่ที่ครัวคะคุณภู"เธอขานรับ
    "กลิ่นหอมจังเลย ยังไม่เสร็จเหรอครับ"
    "เสร็จนานแล้ว รอคุณนานเย็นชืดหมด รตีเลยนำมาอุ่นค่ะ"เธอตอบ"คุณภูไปนั่งรอเถอะค่ะ มาเหนื่อยๆ จะเสร็จแล้ว"ว่าพร้อมตักใส่ถ้วย"เสร็จแล้ว"
    หลังจากทานอาหารเสร็จ
    "วันนี้อร่อยที่สุดเลย ได้ทานฝีมือคุณ"
    "เอ่อ คือ..."เธอกลับเงียบไป เพราะคืดขึ้นได้ว่ารินรดาสั่งว่าห้ามบอก ให้เขาคิดว่ารตีทำเอง
    "อาบน้ำนอนกันดีกว่า"เขามองเธอสายตาเจ้าเล่ห์ รตียามองตาเขาอย่างรู้ใจ
    

      
         

โซ่พยาบาท ตอนที่5

  เช้าวันรุ่งขึ้น ที่เหมืองพังงา
  《ตื่นยังครับ》ติ๊ดๆ
  《ตื่นแล้วค่ะ》ติ๊ดๆ
  《อีกครึ่งชั่วโมง เจอกันหน้าห้องคุณนะครับ》ติ๊ดๆ
  《ค่ะ》ติ๊ดๆ
  《คิดถึง อยากเจอแล้ว》ติ๊ดๆ
    ภูมินทร์ส่งไลน์คุยกับเธอ
    ครึ่งชั่วโมงต่อมา ที่หน้าห้องรตืยา
    "เป็นไงรตี เมื่อคืนหลับสบายไหม"
    "ค่ะ สบายมากเลยค่ะ"
    "มีอะไรขาดเหลือไหม บอกผมนะ เดี๋ยวผมจัดการให้"
    "ไม่คะ ทุกอย่าง ดีมากเลย"
    "วันนี้ทานอะไรดีครับ"เขาถามเธอเมื่อเดินมาถึงห้องอาหาร
    "อะไรก็ได้ ตามใจคุณ"
    "ถ้าตามใจผม งั้นไม่หิวแล้วข้าว อยากทานอย่างอื่นแทน"ชายหนุ่มพูดติดตลก แต่กลับทำให้หญิงสาวหน้าแดง ด้วยความอาย
    "เอาไข่ดาว หนมปัง ไส้กรอก แล้วก็น้ำส้ม 2ที่ครับ"เขาสั่งแม่ครัว
   "อาทิตย์หน้า เราต้องกลับไปภูเก็ต3วัน ผมจะหาที่พักให้คุณ ระหว่างที่อยู่ที่นั่น เราต้องไป-กลับ บ่อยๆ ผมจะเช่าคอนโดให้คุณนะ"
   "ขอบคุณนะคะคุณภู ที่ช่วยเหลือดิชั้น ตอนที่ลำบากอย่างนี้"
   "คุณไม่ต้องขอบคุณผมบ่อยๆหรอก แล้วช่วยเรียกแทนตัวเองว่ารตีได้ไหม แทนว่าดิชั้นมันรู้สึกห่างๆยังไงไม่รู้"เขาขอพร้อมกุมมือหญิงสาว

     หนึ่งอาทิตย์ต่อมา ที่บ้านคุณรพีพร ศศิรุจ ที่นนทบุรี
      ชายฉกรรจ์2คน ยืนด้อมๆมองๆอยู่หน้าบ้าน
      "มาหาใคร"สาวรับใช้ถาม
      "อ๋อ คุณรพีพรอยู่บ้านไหม"
      "รอสักครู่นะคะ"
      "ไม่เป็นไรๆ"
      "ใครมาหน่ะนงค์"คุณรพีพรถามสาวใช้
      "มีคนมาถามหาคุณนาย อยู่หน้าบ้านค่ะ"สาวรับใช้ดอบ แต่เมื่อหันกลับไป ชาย2คน กลับขี่มอเตอร์ไซค์ ออกไปอย่างรวดเร็ว
      "แปลกคน จะรีบไปไหนนะ"

     ที่บ้านหรูริมทะเลของรินรดา
     "เรียบร้อยแล้วนะครับ ผมให้เด็กไปจัดการ ติดเครื่องดักฟัง ที่บ้านแม่เค้าที่นนท์แล้วครับ"นักสืบที่รินรดาว่าจ้าง โทรมารายงาน
    "ดีมาก แล้วหาวิธี เข้าไปติดกล้องในบ้านมันด้วยแล้วกัน"เธอสั่ง แววตาอาฆาต
    "เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับ คนของรินรดาเหรอ ชั้นจะทำให้ไม่มีแผ่นดินจะเหยียบเลย คอยดู"รินรดากำหมัดแน่น พร้อมทั้งกดมือถือ
     "หวัดดีริน"ภูมินทร์รับสาย
     "ภูอยู่ไหนคะ มาหารินหน่อยนะคะภู"เธอแกล้งไม่รู้ พร้อมทำเสียงอ้อนชายหนุ่ม
     "ผมกำลังขับรถกลับภูเก็ต ถึงแล้วจะโทรหานะ"เขาชำเลืองมองรตียา ที่นั่งข้างเขา พร้อมกดวางสาย
     "เพื่อนโทรชวนไปหาทีบ้าน"เขาแก้ตัว
     "ค่ะ รตีได้ยินแล้วค่ะ"เธอตอบ มองออกนอกรถงอนๆ
     "โธ่รตี เพื่อนสมัยเรียนจริงๆ"
     "รตียังไม่ได้ว่าอะไรคุณเลยนะคะ"เธอมองชายหนุ่มอย่างจับผิด
     "เปล่านี่ ผมแค่ไม่อยากให้เข้าใจผิด"รตียาเงียบไป
     "ผมโทรให้นพจองคอนโดไว้ให้คุณแล้วๆ คืนนี้ผมจะไปรับคุณไปดินเนอร์นะครับ"เขาพยายามเอาใจหญิงสาว

      ที่หน้าคอนโดหรูหน้าหาดป่าตอง
     "ภู เราจองชั้น19ให้เลยนะ วิวสวยสุดๆเลย คิดว่าคุณรตีจะชอบ"นพพงษ์บอกพลางยื่นกุญแจให้
     "ปะ เราจะพาขึ้นไปดู"
     "ทำไมต้องเช่าหรูขนาดนี้คะ คงแพงมากเลย"
     "ผมบอกแล้วนะรตี อย่าพูดเรื่องราคา ผมอยากให้คุณมีความสุข ผมก็ต้องให้สิ่งที่ดีที่สุด"ภูมินทร์พูดพร้อมจับมือหญิงสาวเดินตาม นพพงษ์ไปที่หน้าลิฟต์

       ภายในห้อง
      "โอ้โห วิวสวยมากเลยคะ"
      "ห้องนี้เป็นห้องที่วิวสวยที่สุด ที่นี่"นพพงษ์บอก พร้อมพาเปิดห้องอี่นๆ "ที่นี่เป็นคอนโดที่ทำเหมือนบ้าน มีห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว แยกจากกันเป็นสัดส่วน"
      "ว่าไงรตีชอบไหม"ภูมินทร์ถาม
      "ชอบสิคะ อย่างนี้คงอยากแต่จะอยู่ที่ห้อง ไม่อยากไปไหน"เธอตอบอย่างมีความสุข
      "เอาหละ คุณชอบก็ดีแล้ว เดี๋ยวผมต้องกลับบ้าน ไปรายงานพ่อก่อน ค่ำๆแต่งตัวรอนะ"ว่าพร้อมก้มลงจูบหน้าผากเบาๆ
      หลังจากภูมินทร์และนงพงษ์ออกไปแล้ว
      "คะแม่ ช่วงนี้หนูยุ่งๆเรื่องงาน ไม่มีเวลาโทรหาแม่เลย ขอโทษนะคะ"
      "แม่รู้รตี หนูไม่เคยหายไปหลายๆวันอย่างนี้ แม่เป็นห่วง"
     "หนูสุขสบายทุกอย่าง แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ"
     "ออรตี ทางธนาคาร เค้าส่งใบเตือนเรื่องบ้านที่เราเอาไปค้ำประกันไว้มาอีกแล้ว"
     "ค่ะแม่ เงินเดือนออกเมื่อไหร่ หนูจะจัดการเองค่ะแม่"
     "งั้นแค่นี้นะลูก รักษาสุขภาพด้วยนะ"เมื่อวางสายจากมารดา เธอเริ่มกังวล "เริ่มทำงานได้แค่ไม่ถึงสองอาทิตย์ แล้วยังเบิกล่วงหน้ามาแล้ว เงินออกมาจะเหลือสักเท่าไร"
  
       ขณะเดียวกันอยู่ในลิฟท์
      "นายมั่นใจแล้วสินะ กับคุณรตี"
      "นายเป็นเพื่อนเรามากี่ปี น่าจะรู้ ว่าเราไม่เคยเช่าอะไรให้ใคร ไม่เคยพาใครเข้าบ้าน แม้แต่..."
      "ริน"นพพงษ์ต่อให้
      "เราจะนัดเคลียร์กับรินให้จบๆ"
      "ดีแล้ว ถ้านายไม่เคลียร์ เราจะเป็นคนบอกคุณรตีเอง เราไม่อยากเห็นนายเอาเปรียบเค้า"นพพงษ์บอกพร้อมตบไหล่เพื่อนเบาๆ"แล้วไม่ต้องห่วงเรื่องที่ผับนะ เราจัดการให้ ดูแลกิจการทางนั้นให้พ่อนายวางใจเถอะ"
       "ขอบใจมากนพ"
      "ริน ภูอยากเจอรินหน่ะ"เขาต่อโทรหารินรดา
      "วันนี้รินมากรุงเทพ จะกลับวันมะรืน"
      "อ้าว เมื่อตอนอยู่บนรถ คุณอยากเจอผมๆนึกว่าคุณ อยู่ภูเก็ต"เขาถามพลางเดินออกจากลิฟต์
      "รินแค่จะโทรนัดก่อน เผื่อคุณว่าง"เธอบ่ายเบี่ยง เพราะรู้ว่าชายหนุ่มต้องการพูดอะไร
      "แล้วรินว่างเมื่อไหร่ โทรมาหาผมนะ"
      "ค่ะ แล้วรินจะโทรหานะคะ ที่รัก"น้ำเสียงหม่นหมอง
      "รินว่าไง"นพพงษ์ถาม
      "รินบอกยังไม่ว่าง แล้วจะโทรมา"
      "เคร งั้น ค่อยเจอกันนะ"

      คืนนั้นที่โรงแรมหรู
      "อาหารที่นี่อร่อยมากเลย"ชายหนุ่มบอกขณะที่เดินผ่านล็อบบี้กำลังจะเดินเข้าร้านอาหารในโรงแรม
      "เชิญนั่งครับ"เขาดึงเก้าอี้ให้นั่งเมื่อถึงที่โต๊ะ
      "ขอบคุณคะ"
      "วันนี้ดื่มอะไรดี"
      "ไวน์แดงแบบวันนั้นก็ได้ค่ะ"เธอนึกอยากดื่ม
      "รับเครื่องดื่มอะไรก่อนดีครับ"บริกรถามเมื่อนำเมนูอาหารส่งให้
      "ไวน์แดง มาก่อน"ภูมินทร์สั่ง
      เมื่อบริกรนำไวน์มาเสริฟ
       "ปูอบวุ้นเส้น และฯลฯ"ภูมินทร์สั่งอาหาร
      สองหนุ่มสาว ดื่ม-กิน จนเริ่มจะดึก
       "กลับเถอะคะ ดึกแล้ว"เธอชวนชายหนุ่ม
       "ยังไม่อยากกลับเลย"
       "เค้าจะปิดร้านแล้ว"เธอบอกพร้อมชี้ให้ดูพนักงานที่ยืนรอเช็คบิล
       "กลับก็ได้ แต่ผมจะดื่มต่อห้องคุณนะ"เขาบอกพร้อมวางบัตรเครดิตลงที่ถาดบิล ทั้งๆที่มองหน้าหญิงสาว
       "ได้สิคะ ก็ห้องคุณนี่"เธอตอบ

       เมื่อมาถึงที่ห้อง อาหาร-เครื่องดื่มที่เพิ่งแวะซื้อจากเซเว่น ภูมินทร์จัดเรียงเข้าตู้เย็น
        "เวลาคุณหิวจะได้มีอะไรกิน"พร้อมเดินมากอดรตียาจากข้างหลัง มองออกไปที่ท้องทะเลยามค่ำคืนที่รายล้อมด้วยแสงไฟยามราตรีระยิบระยับ
        "คุณภู อยากดื่มอะไรดีคะ"เธอถามพร้อมจะเดินไปหยิบ พยายามหลบตาเขาอย่างอายๆ
       "ไม่ยังไม่อยากดื่ม"พูดพลางดึงร่างเล็กเข้ามาในอ้อมกอด
       "ผมรักคุณ จนแทบจะคลั่งตาย อยู่แล้วรตี"เขาพูดพร้อมจมูกที่ฝังซอกคอหญิงสาวอย่างเร่าร้อน
       "คุณภู..อย่าคุณภู...."เธอพยายามฝืนร่างแต่กลับอ่อนแรง พร้อมเสียงที่เงียบไปเพราะริมฝีปากชายหนุ่มประกบอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มรีบอุ้มร่างระทวยเข้าไปที่ห้อง
        ชายหนุ่มวางร่างเธอลงที่เตียง หญิงสาวได้แต่ยอมให้เค้าทุกอย่างด้วยใจกระเจิดกระเจิง
       "ผมขอโทษ ผมห้ามใจตัวเองไม่ได้"เขาเอ่ยพร้อมหันไปหยิบกล่องกำมะหยี่ในกระเป๋าเสื้อที่กองอยู่ที่พื้น พร้อมเปิดนำแหวนเพรชที่เตรียมมาสวมให้หญิงสาวพร้อมดึงร่างมากอดด้วยความรักที่สุดของหัวใจ
        "ต่อไปนี่ผมจะดูแลคุณเอง"บอกพร้อมจุมพิตที่หน้าผากของรตียา ซึ่งกำลังน้ำตาคลอทั้งมีความสุขที่จะได้อยู่กับเขาทั้งเสียใจที่ยอมเขาง่ายเกินไป

       
      

    

โซ่พยาบาทตอนที่4

    คืนเดียวกันในผับที่ภูเก็ต
   "สวัสดีค่ะคุณริน"จีน่าPRสาวทักทายรินรดา
   "เห็นภูมินทร์มารึยัง"รินรดาถามPRสาว
   "ยังไม่เห็นบอสเลยค่ะ คุณริน"เธอตอบ "เห็นแต่คุณนพพงษ์ น่าจะอยู่ที่ห้องบอสค่ะ"
   "ขอบใจมากจีน่า เอาเบอร์โทรเธอมาหน่อย เวลาชั้นมีธุระ จะได้โทรหาเธอ"
   "นี่ค่ะคุณริน แอดไลน์เลยก็ได้นะคะ เผื่อคุณโทรไม่ติด จะได้คุยทางไลน์"จีน่ายื่นนามบัตรให้
   "โอเคร ขอบใจ"
    
   รินรดามาที่ห้องทำงานภูมินทร์ ในขณะที่จะเปิดประตูห้องเข้าไป เธอกลับหยุดฟัง
   "ถึงพังงาแล้วเหรอภู"เสียงนพพงษ์คุยโทรศัพท์กับภูมินทร์
   "ถึงแล้ว ที่ผับเป็นไงบ้าง"
   "เรียบร้อยดี"เขาตอบภูมินทร์ "แล้วคุณรตียาหละ เค้าว่าไงบ้าง ที่ทำงาน ทำได้ไหม"
   "ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร แกถามทำไม"
   "ป่าวหรอก เราแค่เป็นห่วง ถ้าทำไม่ได้ จะได้กลับมาเป็นPRเหมือนเดิม"
   "ถึงจะทำไม่ได้ เราก็ไม่ให้กลับไปทำPRหรอก"
   "ทำไมหละ หรือว่านาย..."นพพงษ์สงสัย
   "เราคิดว่าเรา ยังไม่พูดดีกว่า เรารอคุยกับรินให้ชัดเจนก่อน"
   "นายชอบคุณรตียาเหรอวะ บอกเราๆจะได้รู้"นพพงษ์ถามตรงๆ
   "ใช่ แรกๆเราคิดไปเองว่า เค้ามาทำงานอย่างนี้ ต้องขาย...แน่ๆ เราเพิ่งมารู้ว่า คนเราต่างก็มีความจำเป็นต่างกัน"
   "โอเคร แค่นี้ก่อนนะ แล้วคุยกันใหม่"นพพงษ์รีบวางสาย เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูพร้อมกับร่างของรินรดา
  
    "รินจะมาทำไม ไม่โทรมาก่อนหละ"
    "รินว่าจะมาดื่ม เลยว่าจะมาชวน ภูกับนพ"
    "ภู ไปเหมืองที่พังงา ไม่ได้โทรบอกรินเหรอ"นพพงษ์พยายามกลบเกลื่อน
    "งั้นนพ ต้องไปดื่มเป็นเพื่อนริน"รินรดาจูงมือนพพงษ์
    
    เวลาตีสองขณะที่ผับกำลังจะปิด
    "รินกลับเถอะ เดี๋ยวเราไปส่ง"นพพงษ์เอ่ยชวน
    "นพไม่ต้องไปส่งรินหรอก อยู่ดูแลที่นี่แหละ รินโทรให้รถที่บ้านมารับแล้ว"
    "เหรองั้น เราเดินไปส่งที่รถ"
    "ขอบใจ นะนพ ไม่ว่าจะยังไง นพก็ไม่เคยทิ้งริน"เธอพูดน้ำเสียงสั่น
    "เราเป็นเพื่อนกันนี่ จะให้เราทิ้งรินได้ไง"เขาบอกอย่างจริงใจ พร้อมพยุงหญิงสาวไปที่รถ

     ที่รถของรินรดา เวลาตี2ครึ่ง
    "จีน่าๆ"รินรดาเรียกPRสาว ที่กำลังเดินออกมาจากผับ
    "อ้าวคุณริน ยังไม่กลับเหรอคะ"
    "ขึ้นรถ ชั้นจะไปส่ง"รินรดาสั่ง
    "จะดีเหรอคะ"
    "บอกให้ขึ้น ก็รีบ เดี๋ยวมีคนเห็น"

     รินรดาขับรถมาจอดหน้าชายหาด
    "เธอรู้จักPRที่เพิ่งออกไปไหม"รินรดาตัดสินใจถาม
    "อ๋อ รตียา"เธอคิดสักครู่ "มีอะไรเหรอคะ"
    "ชั้นอยากได้ ประวัติมัน"เธอตอบอย่างเคืองแค้น
    "แล้วจะให้ จีน่าช่วยยังไงคะ"
    "ห้องทำงานภู ต้องมีประวัติพนักงานแน่"เธอบอกเปรยๆ 
    "แล้วจีน่า จะเข้าห้องคุณภู ได้ยังไง"
    "เรื่องนั้น ชั้นจัดการเอง เธอมีหน้าที่แค่ เอาประวัติมันออกมาให้ชั้นพอ"รินรดาพูดพร้อมกำหมัดแน่น
    "ได้ค่ะ คุณริน"
    "ถ้ายังไง ชั้นจะโทรหาเธออีกที"รินรดาบอกพลางยื่นเงินให้ "นี่ 5000 ถ้าทุกอย่างเรียบร้อย ชั้นจะเพิ่มให้"
    "ขอบคุณคะ"เธอรับเงินพร้อมยิ้มดีใจ
    "เรื่องนี้ ต้องเงียบที่สุด เข้าใจนะ"
    "ค่ะ คุณริน"

    เวลา 8.45เช้าที่เหมืองแร่พังงา
   เสียงเคาะประตูที่หน้าห้องรตียา
    "ค่ะ รอแปปค่ะ"ว่าพลางรีบเก็บอุปกรณ์ใส่กระเป๋า
    "ขอโทษนะคะ ที่ช้ากว่าคุณ"
    "คุณไม่ช้าหรอก ผมมาก่อนเวลาต่างหาก"ว่าพลางชี้ให้ดูเวลาที่ข้อมือตนเอง
    รตียายิ้มๆ
    "แสดงว่าคุณภู ตื่นเช้าสิคะ"
    "ปกติผมก็ไม่เช้าหรอกนะ นอกจากมีอะไรพิเศษ"ว่าพลางผายมือเชิญหญิงสาว
    "แล้ววันนี้ ต่างจากทุกวันเหรอคะ"เธอถามชายหนุ่มในขณะที่เดินไปที่โรงอาหาร
    "ใช่ ตื่นมานี่รู้สึกสดชื่นมากๆ"เขาตอบพร้อมมองหน้าหญิงสาว
    รตียายิ้มอายๆ ได้แต่หลบตาชายหนุ่ม
   "ทานอะไรดี ผมจะสั่งแม่ครัวให้"เขาถามพลางดึงเก้าอี้ให้ เมื่อเดินมาถึงห้องอาหาร
   "อะไรก็ได้ค่ะ จริงๆแล้ว ดิชั้นน่าจะออกไปนั่งรวมกับคนงานอื่น จะได้ไม่ยุ่งยาก"
   "คุณเป็นเลขาผม ต้องอยู่กับผมสิ"
   "ข้าวต้มหมูใส่ไข่2ที่ ครับ"เขาหันไปส้งแม่ครัว
   หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ
   "พร้อมยัง ผมจะพาคุณไปดูที่ทำงานต่อ"
   "พร้อมค่ะ"
   "ไปกันเลย"ภูมินทร์ว่าพร้อมทั้งจูงมือรตียา
   รตียามองหน้าเขาแต่ก็ยินยอมให้เขาจูงมือเดินไป พร้อมกับหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ
   เวลาบ่ายโมง ภายในเหมือง
   "ร้อนไหม รตี ผมว่าคุณไปรออยู่ที่ห้องทำงานดีกว่า"ภูมินทร์กล่าวอย่างห่วงใย
   "ไม่ค่ะ ดิชั้นรอได้ค่ะ คุณสั่งงานเถอะค่ะ จะได้กลับพร้อมกัน"
   15นาที หลังจากนั้น
   "กลับเถอะรตี เรียบร้อยแล้ว"
   "ค่ะ"
   "เย็นนี้ ผมจะพาคุณไปดินเนอร์ริมทะเล ดูอาทิตย์ยามเย็น"
   "ค่ะ คุณภู"เธอรับปากอย่างเต็มใจ
   
   เย็นวันนั้น ที่ร้านอาหารริมหน้าผาติดทะล บรรยากาศแสนโรแมนติค
   "สั่งอะไรดีครับ"บริกรถามอย่างสุภาพ
   "เอาไวน์แดงมาก่อน"เขาสั่งบริกรพร้อมหันไปถามหญิงสาว "ดื่มกับผมนะรตี"ว่าพร้อมกุมมือเธอไว้
   "บรรยากาศที่นี่ดีจังเลยคะ"เธอมองไปรอบๆ
   "ถ้าคุณชอบ ผมจะพามาทุกวันเลย"
   "อุ๊ย ไม่ต้องหรอกค่ะคุณ หรูขนาดนี้ น่าจะแพงมาก"เธอบอกอย่างเกรงใจ
   ภูมินทร์ทำสัญญาณให้บริกรรินไวน์ เมื่อบริกรนำไวน์มาแล้ว
   "ถ้ามันทำให้คุณมีความสุข อย่าพูดเรื่องราคาเลยรตี"ชายหนุ่มพูดพลางมองหน้า พร้อมยกแก้วไวน์ชนกับเธอ
   ในบรรยากาศยามเย็นที่ดวงตะวันใกล้จะลับขอบฟ้า ภายในร้านหรู เพลงบรรเลงเบาๆ พร้อมชายหนุ่มที่เธอตกหลุมรัก ตั้งแต่แรกพบ ทำให้เธอปฏิเสธห้วใจตัวเองไม่ได้อีกแล้ว
    "รตีคุณคงรู้ว่าผม รู้สึกยังไงกับคุณใช่ไหม"ภูมินทร์มองเข้าไปในดวงตากลมโตของเธอ หวานซึ้ง
   "เอ่อ ค่ะ"รตียาขวยเขิน จนตอบอะไรไม่ถูก
  
  ภายในรถของรินรดาที่ภูเก็ตในขณะเดียวกัน
   "ฮัลโหลจีน่า ออกมาหาชั้นหน้าผับ"
   "ค่ะ คุณริน"ว่าพลางเดินไปตามนัด
   เมื่อมาถึงที่รถจีน่ามองซ้าย มองขวาก่อนก้าวขึ้นนั่งข้างคนขับ
   "วันนี้ชั้นจะชวนนพ นั่งดื่ม แต่ชั้นจะแกล้งลืมกระเป๋าไว้ที่ห้องภู นอกนั้นเธอต้องจัดการ เข้าใจนะ"
    "ค่ะ เข้าใจ"
    "งั้นก็แยกย้าย แล้วเจอกันข้างในนะ"รินรดาสั่งแผนที่เตรียมมา
     
     รินรดาเคาะประตูห้องทำงาน
    "เข้ามา"นพพงษ์ตอบ
    "หวัดดีนพ"รินรดาทักทายเสียงใส
    "ริน"
    "สงสัยอะไรนพ ไปดื่มกันเถอะ รินอยากมีเพื่อนดื่ม"เธอกอดแขนเพื่อน ออดอ้อน หลังจากวางกระเป๋าถือ
     "เราแค่สงสัย ว่าภูไม่อยู่ ไม่คิดว่ารินจะมา"เขาบอกตามความคิด
     "ถึงภูไม่อยู่ รินก็ยังมีนพอยู่นี่หน่า"เธอพูดพลางดึงแขนเพื่อน "ไปเถอะน่านะ"
     "โอเครๆ ริน"เขาตอบ พร้อมเดินตามแรงฉุดเพื่อน
     หลังจากนั่งดื่มสักพัก
     "น้องๆ มานี่ซิ"รินรดาเรียกจีน่า ทำทีเดินผ่านมา
     "ค่ะ คุณริน"เธอเดินมาที่โต๊ะรินรดา
     "ช่วยขึ้นไปเอากระเป๋าถือ ให้ชั้นที สีเงินวางอยู่ที่โต๊ะทำงาน ห้องคุณภูนะ"เธอสั่ง
     "ค่ะ เดี๋ยวหนูไป เอาให้"เธอว่าพร้อมรีบเดินออกมา
      "รินลืมกระเป๋า หนะนพ"
      "เหรอ เดี๋ยวเราไปเอาให้"นพขยับตัวจะลุก
      "ไม่ต้องนพ รินให้เด็กไปเอาแล้ว"

      ภายในห้องทำงานภูมินทร์ จีน่าพยายามหาเอกสารจนทั่วก็ไม่พบ แต่เธอมองไปเห็นแฟ้มเอกสารเล่มหนึ่ง อยู่ในตู้ของใช้ส่วนตัวภูมินทร์
เธอรีบพับเอกสาร ใส่ลงในกระเป๋ารินรดา
      
      "นี่คะคุณริน กระเป๋า"เธอยื่นกระเป๋าให้รินรดา พร้อมส่งไลน์  ""ยุในกระเป๋า""
      "ขอบใจนะ อ๊ะทิป"เธอรับพร้อมส่งแบงค์พัน 5ใบ ม้วนส่งให้อย่างมิดชิด

     ที่ร้านอาหารหรูที่พังงา
     "กลับกันเถอะค่ะคุณภู ดึกมากแล้ว"รตียาชวนชายหนุ่ม ที่เริ่มอยู่ในอาการมึนเมา
     "ผมอยากหยุดเวลาเหลือเกิน รตี คืนนี้ผมมีความสุขมาก ได้นั่งมองหน้าคุณ คุยกับคุณ บอกสิ่งที่อยู่ในใจ ตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้าคุณ"เขาพรรณา
      "ค่ะ รตี ก็รู้สึกดีมากๆเลย"เธอบอกชายหนุ่ม ถึงความรู้สึกตนเอง
        
       เวลาเที่ยงคืนหลังกลับจากร้านอาหาร
      "รตีๆๆๆ"/ชายหนุ่มปลุกมื่อขับรถถึงที่พัก
      ภูมินทร์เดินมาส่งรตียาหน้าห้อง
      "ฝันดีนะครับ"ชายหนุ่มกระซิบข้างหูหญิงสาว พร้อมหอมแก้มเบาๆ
      "ฝันดีค่ะ"รตียาแก้มแดง 
     หลังจากแยกย้ายกัน 
     ภายในห้องหญิงสาว เธอนอนคิดถึงคำพูดของเขาวนไป วนมาด้วยรอยยิ้ม จนกระทั่งหลับไป
     ภายในห้องชายหนุ่ม เขานอนคิดถึง ดวงตา รอยยิ้ม ท่าทาง ทุกสิ่งทุกอย่าง ที่เกี่ยวกับเธอ จนหลับ
    
      
     
   

  

โซ่พยาบาทตอน3

   ที่หน้าผับเวลาตี2ครึ่ง
   "ขับไหวนะนพ"ภูมินทร์ถามนพพงษ์ที่อยู่ในอาการมึนเมา
   "สบายน่า ไม่ต้องห่วง"
   "เราไปส่งเอามั๊ย"ภูมินทร์ถามอย่างห่วงใย
   "ไม่ต้องๆ เราไหว นายรีบกลับเถอะน่า"
   "โอเคร ขับดีๆนะ"
    ภูมินทร์ยืนส่งจนรถเพื่อนแล่นไปลับตา เขาหันกลับจะเดินเข้าไปที่ผับ
    "บอสคะ"รตียาเรียกชายหนุ่ม
    "อ้าว คุณ อยู่นี่เอง ผมคิดว่ากลับบ้านแล้ว"
    "ยังค่ะ ดิชั้น รอบอสอยู่ค่ะ"เธอตอบ
    "มีอะไร เดี๋ยวไปคุยที่รถ จะกลับรึยัง ผมจะไปส่ง"
    "ไม่เป็นไรค่ะ ดิชั้น เกรงใจ"
    "เกรงใจอะไร ขึ้นรถ"ว่าพลางดึงมือหญิงสาว  พร้อมทั้งเปิดประตูรถให้หญิงสาว
    "ขอบคุณค่ะ
    "หิวไหม"เขาถามรตียาที่นิ่งเงียบมานาน
    "ไม่ค่ะ"
    "ผมว่าจะแวะซื้อของ คุณอยากได้อะไรไหม"เขาถาม
    "เอ่อ ไม่ค่ะ ไม่อยากได้อะไร"
    "มา ลงมากับผม"ภูมินทร์สั่ง
    "อยากได้ของใช้อะไร ก็หยิบใส่ตะกร้า เดี๋ยวผมจัดการให้"เขาบอก
     "เอ่อ ไม่ๆ เป็นไรค่ะ บอส"
     "ผมบอกให้หยิบ ก็หยิบสิ ไม่ต้องเกรงใจ ผมเต็มใจ" แต่รตียายังเกรงใจ
     "มา ผมเลือกให้เอง อันนี้นะ แล้วก็อันนี้ แล้วก็"
     "พอแล้วคะ พอแล้ว มันเยอะเกินแล้วค่ะ"เธอปราม เมื่อเห็นเขาเลือกจนเต็มตะกร้า แล้วยังหันไปหยิบตะกร้าใบใหม่อีก
     "พอได้ไง ต้องใช้อีกตั้งเป็นเดือน กว่าเงินเดือนคุณจะออก"เขาพูดพลางหยิบของต่อ
     "พอแล้ว จริงๆค่ะ บอส"เธอบอก
     ขณะชายหนุ่มขับพาเธอมาส่งบ้าน
     "คือ บอสค่ะ ดิชั้นคิดว่า คงจะไม่เหมาะกับงานนี้ พอจะมีตำแหน่งที่เหมาะสมกว่านี้ไหมคะ"เธอถาม
     "คุณไม่เคยทำงานอย่างนี้จริงๆเหรอ"ชายหนุ่มถาม เพื่อหวังคำตอบที่เขาอยากได้ยิน
     "ดิชั้น เพิ่งเคยทำค่ะ"
     "แล้วงานเก่าคุณหล่ะ"
     "งานเก่าดิชั้นทำเกี่ยวกับบริษัททัวร์ รับจองโรงแรม แล้วก็จัดทริปคะ แต่บอสเสียชีวิตลง ทางบริษัทก็เลยปิดค่ะ"เธออธิบาย
      "คุณสนใจ งานเลขาไหม"ภูมินทร์ถามหัวใจพองโต ที่ได้ยินคำตอบหญิงสาว
      "ค่ะ ดิชั้นทำได้ แล้วก็จะยินดีมากเลย"เธอตอบ แววตาประกาย
      "พอดี พ่อผม เค้าจะให้ผมไปดูแลเหมืองแร่ที่พังงาแทน"
      "แต่ถ้าจะสะดวก ผมจะดูแลเรื่องที่พักให้ เพราะน่าจะต้องไปกลับระหว่างภูเก็ต-พังงา บ่อยๆหรืออาจต้องค้างที่พังงาบ้าง คุณสะดวกรึเปล่า"เขาอธิบายพร้อมถามเธอ
      "ได้ค่ะบอส"
      "ถ้าตกลง ไปจัดการเรื่องห้องคุณให้เรียบร้อยนะ แล้วค่ำๆ พรุ่งนี้ผมจะเข้ามารับ"
      "คะ บอส"
      "แล้วก็เรียกผมว่า ภูดีกว่า"เขาสั่ง
      "คะ คุณภู"
      "ขึ้นห้องได้แล้ว ถึงแล้ว"
      "ขอบคุณอีกครั้งนะคะ สำหรับทุกเรื่อง"
      "ผม...ยินดีมาก ที่ได้ช่วยคุณ พรุ่งนี้ผมมารับนะ แล้วก็เบอร์คุณด้วย จะได้ติดต่อกันได้สะดวกขึ้น"
      "ค่ะ เบอร์ดิชั้นนี่คะ"เธอจดพร้อมยื่นให้
      ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น
      "คุณป้าค่ะ หนูจะคืนห้องค่ะ"รตียากล่าวกับหญิงวัยกลางคน
      "จะย้ายแล้วเหรอ ไปอยู่ที่ไหนหละ"หญิงวัยกลางคนเอ่ยถาม
      "หนูได้งานใหม่ เค้ามีที่พักให้ด้วยค่ะคุณป้า"เธอตอบน้ำเสียงสดใส
      "ดีจังเลย จะได้ประหยัดอีกเยอะ แล้วจะออกวันไหนหละ"
      "เย็นนี้ค่ะ"
      "เดี๋ยวป้าจะขึ้นไปเช็คห้อง แล้วเรื่องเงินมัดจำ ป้าจะคืนให้ตอนหนูออกแล้วกัน"
      "ค่ะ ขอบคุณนะคะ"
      ที่บ้าน วิชญทักษิณา
      "เรื่องที่เหมือง ผมจะจัดการเองครับพ่อ"ภูมินทร์คุยกับนายภูชิต
      "แล้วที่ผับแกหละ ใครจะดูแล"นายภูชิตถามลูกชายอย่างแปลกใจ
      "ผมโทรให้นพพงษ์ ดูแลแทนแล้วครับพ่อ"
      "ดีๆ แกจะได้มาดูแลแทนพ่อสักที"นายภูชิตเอ่ยอย่างสบายใจ
      "พ่อ โทรให้ทางนั้นจัดการเรื่องที่พักให้นะครับ ผมอาจจะต้องพักที่นั่นบ้าง"
      "ได้ เดี๋ยวจัดการให้เลย"
      "ขอบคุณครับ"เขาเอ่ยอย่างอารมณ์ดี
      "แปลกแฮะ ทุกทีให้ไป ทำอย่างกับให้ไปออกรบ"นายภูชิตสงสัย
      เย็นวันนั้นเวลา5โมง
      "ผมมาถึงแล้วนะ รออยู่ข้างล่าง"ภูมินทร์โทรหารตียา
      "รอสักครู่นะคะ ดิชั้นกำลังลงไป"
      
      สักพักเมื่อหญิงสาวจัดการคืนห้องเรียบร้อย
      "เอากระเป๋ามาผมช่วยถือ"ว่าพร้อมยกกระเป๋าไปไว้ท้ายรถ
     "มีอีกไหม หมดแล้วเหรอ"
     "ขอบคุณคะ หมดแล้ว"
     "งั้นเราไปกันเถอะ"ภูมินทร์ว่าพร้อมเปิดประตูรถให้
     "ผมจะพาคุณซื้อของใช้ที่จำเป็นก่อน เพราะที่นั่น อาจไม่สะดวกมากมายอะไร"
      ชายหนุ่มพาเธอมาที่ห้างสรรพสินค้า
     "เราซื้อของ ทานอาหารกัน จะได้เดินทางกันต่อเลย"
      "คะ คุณภู"
      
      หลังจากซื้อของและทานอาหารเรียบร้อย
      "จะสองทุ่มแล้ว เราไปกันเถอะ เดี๋ยวจะถึงที่นั่นดึก"
       "ค่ะ"
      
       4ทุ่ม ณ.เหมืองแร่ที่พังง่า
       "ขอโทษนะ มาถึงดึกไปหน่อย รบกวนเวลาพักผ่อน"ภูมินทร์เอ่ยขอโทษคนงานเก่าแก่ของบิดา
       "ไม่เป็นไรครับนายห้ว"คนงานบอกอย่างเกรงใจ
       "นี่กุญแจครับนายหัว"เขาพูดพร้อมยื่นกุญแจให้
       "ขอบคุณครับ ผมไม่รบกวนเวลาแล้ว"ภูมินทร์กล่าว
       "งั้นผมขอตัวนะครับ มีอะไรก็เรียกผมเลยนะครับ"ว่าพลางเปิดประตูออกไป
    
      "อยู่ได้นะ มันออกจะแคบไปนิด"เขาหันมาถามรตียา
      "ได้ค่ะ ไม่แคบหรอกค่ะ"เธอกล่าว"แล้วคุณภูหละคะ"เธอถามเขา
     "ห้องผม อยู่ห้องเก่าคุณพ่อ ถัดไปจากห้องคุณนี่แหละ"เขาตอบ "คุณพักผ่อนได้แล้ว พรุ่งนี้9โมงเช้า ผมจะมารับไปทานอาหารเช้า แล้วไปดูที่ทำงานนะ"
     "ขอบคุณคะ"
     "ฝันดีนะ แล้วเจอกันตอนเช้า"ภูมินทร์พูดเสียงอ่อน
     "ฝันดีคะ"เธอกล่าวตอบพลางหลบสายตาเขาอายๆ
       
      
      
    

โซ่พยาบาทตอน1

        ณ.ริมชายหาดป่าตอง หญิงสาวหน้าตาคมเข้มนั่งเหม่อมองคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งอย่างเลื่อนลอย ในใจได้แต่คิดวนไปวนมา แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งจากภวังค์เมื่อเสียงมือถือรุ่นรัดด้วยหนังยางดังขึ้น             
       "เบอร์แม่"ในใจคิดพะวง จะตอบไปยังไงดี
       "จ้าแม่" รตียารับสาย
       "ได้โอนเงินมาให้แม่รึยัง สิ้นเดือนแล้วนะ"เสียงมารดาดังมาตามสาย
       "น่าจะวันพรุ่งนี้บ่ายๆนะแม่"รตียาตอบแต่ในใจกลับปวดร้าวที่ต้องโกหกมารดา
       "ทำไมหละลูก ทุกเดือนก็ต้องส่งมาแล้ว"
       "เจ้านายขอเลื่อนจ่ายหนะคะแม่"รตียากล่าวพร้อมน้ำใสๆที่หยดลงอาบแก้ม
       "แล้วทานข้าวรึยัง รักษาสุขภาพบ้างนะลูก อยู่ไกลบ้าน ป่วยมาจะลำบาก"มารดาเตือนรตียา น้ำเสียงห่วงใย
        "ค่ะ" แม่ หนูทานแล้ว ไม่ต้องห่วงหนูนะคะ"รตียาโกหกอีก
        "แค่นี้นะคะ พรุ่งนี้โอนแล้วจะโทรบอกนะคะแม่"เธอรีบตัดบท
        "จ้าลูก แม่คิดถึงหนูนะ"มารดากล่าวพร้อมวางสาย
       จะหาเงินจากที่ไหนดีนะ ในช่วงตกงานอย่างนี้ จะหาเงินจากที่ไหนได้ภายในคืนเดียว รตียาครุ่นคิด.
        เมื่อสองปีก่อนหน้าที่รตียาต้องระหกระเหิน มาทำงานอยู่ภูเก็ต รตียาและมารดาได้ลงทุนเปิดบริษัท ร่วมกับเพื่อนสนิทมารดา แต่ด้วยความใหม่ในวงการธุรกิจ ทำให้ไม่รู้กลโกงเพื่อนมารดา ที่ต้องการเขี่ยเธอให้พ้นทาง ทำให้เธอต้องมาแบกรับหนี้อีกนับล้าน
        แล้วตอนนี้เธอต้องลำบากอีกครั้ง เมื่อนายจ้างที่เธอมาทำงานด้วย"เสียชีวิต" เธอต้องขายทุกอย่างที่มีติดตัวเพื่อประทังชีวิต
         "ไม่ได้!เราจะมานั่งโง่ๆริมทะเล อย่างนี้เหรอไม่ได้!ไม่ได้อีกแล้ว"รตียารำพึงกับตัวเอง
          เธอเดินเข้าไปในซอยที่คราคร่ำไปด้วยหญิง ชาย ทั้งไทยและต่างชาติ ทั้งเสียงดนตรีที่ดังจนแก้วหูจะแตก ทั้งเหล้า ทั้งบุหรี่ จนเธอยากถอยหลังกลับ แต่อีกใจก็ไม่ถอย
         
         ภูมินทร์ วิชญทักษินา เพลย์บอยหนุ่มหล่อ หน้าคมเข้มวัยย่าง30ปี นักธุรกิจชื่อดังแห่งเมืองใต้ เขาจับธุรกิจอะไรก็ประสบความสำเร็จ รวมถึงธุรกิจมืดในซอยดังแห่งนี้ ผับที่เขาเพิ่งเปิดตัวได้แค่สองเดือน แต่กลับมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาอย่างไม่ขาดสาย ทำให้ต้องรับสมัคร      
                  "พนักงานPRจำนวนมาก"
      ณ.ผับหรูกลางซอยวอคกิ้งสตีท
     "เฮ้ย ภู วันนี้ นายจะหิ้วคนไหนดีวะ มีแต่แจ่มๆทั้งนั้นเลย" นพพงษ์เพื่อนสนิทเอ่ยถามภูมินทร์
     "ไอ้นพ ถึงเราจะเป็นเพลย์บอย แต่เราไม่กินไก่วัดหรอกเว้ย" ภูมินทร์กล่าวพร้อมกระดกเหล้าในแก้วรวดเดียวหมด
      "เบาๆหน่อยภู เดี๋ยวเมาก่อนผับปิดนะ"นพพงษ์ปราม
      "เราคอมหาลัยแล้วนพ ไม่ใช่นายคออนุบาล" ภูมินทร์เย้าเพื่อน
      "แล้วเมื่อไหร่ นายจะหาคนดูแลสักทีวะ จะ30อยู่แล้ว น่าจะให้พ่อนายดูๆให้ได้แล้ว" นพพงษ์เอ่ย
      "ไม่! มีเมียเหรอ เรายังไม่อยากติดคุก นายก็รู้นิสัยเราดี ถ้าจะมีจริงๆ ไม่ต้องหาหรอก เดี๋ยวก็มาเอง"ภูมินทร์พูดตามความรู้สึก
        ในขณะที่ดนตรีกำลังเล่นอย่างสนุกสนาน ภูมินทร์ กำลังเริ่มเมาได้ที่ ปล่อยอารมณ์กับเสียงเพลงเต็มที่
        "นายหัว นายหัว มีผู้หญิงมาหางานครับ"พนักงานวิ่งมาเรียกภูมินทร์
       "อะไร มาสมัครงานตอน5ทุ่ม เนี่ยนะ"ภูมินทร์หัวเสีย
        "ขัดจังหวะ คนกำลังสนุก พาไปรอชั้นบน เดี๋ยวตามไป"ภูมินทร์บอกพนักงานอย่างหัวเสีย
         เมื่อภูมินทร์มาถึงห้องรับรองพนักงาน                 "ไง แม่คุณ มาสมัครงานตอนห้าทุ่ม ทำไมไม่มาตอนผับเลิกซะเลยหละ"ภูมินทร์เหน็บแนมหลังจากเปิดประตูนั่งลงตรงหน้า
        "คือว่า"รตียากำลังจะเอ่ย
        "ผมยังไม่อนุญาติ ให้คุณพูด"ภูมินทร์ตะคอกพร้อมมองหน้า แต่เมื่อเห็นหน้ารตียาตรงๆ กลับทำให้ภูมินทร์เสียงอ่อนลง จะด้วยเพราะเหตุใด ภูมินทร์ก็ไม่เข้าใจตัวเอง ว่าเขาสงสารแววตาคู่นี้ หรือเขากำลังหวั่นไหว
     "มาสมัครตำแหน่งอะไร ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่"เขาเอ่ยถามเสียงอ่อนลง
     "มีตำแหน่งอะไรบ้างคะ"รตียามองหน้าเขาอย่างหวาดๆก่อนเอ่ยถาม
     "ชื่อ รตียา อายุ25ค่ะ"เธอตอบ
     "ก็หน้าร้านก็บอกไว้นี่ว่ารับแต่PR"เขามองรตียา อย่างชั่งใจ "หรือจะไม่รู้จริงๆ"ภูมินทร์คิด
     "PRต้องทำเกี่ยวกับอะไรบ้างคะ"รตียาถาม
     "ผสมเหล้าเป็นรึเปล่า"ภูมินทร์ถามพลางยื่นเอกสารให้กรอก
     "ไม่เป็นคะ แต่ดิชั้นฝึกได้ค่ะ"รตียากล่าวพร้อมรับเอกสารมากรอก
     "เดี๋ยวผมจะฝึกให้คุณเอง"ภูมินทร์เสนอตัว แต่ในใจกลับคิดทางอกุศล "อยากรู้จริงๆ จะมาไม้ไหน ผู้หญิงมาอยู่ซอยนี้ ชงเหล้าไม่เป็นเชอะ"
     "เริ่มงานได้เลยไหมคะ"รตียาอยากเริ่มงาน ด้วยหวังว่าจะขอเบิกเงินล่วงหน้าส่งให้มารดา
     "เงินเดือนเท่าไรคะ"เธอถาม
     "ไม่ต่ำกว่าสามหมื่น แล้วแต่ความสามารถ"เขาตอบ
      รตียาดีใจจนออกนอกหน้า"ขั้นต่ำสามหมื่น ที่ทำงานเดิมต้องทำตั้งเกือบสามเดือน โชคเข้าข้างแกแล้วรตียา"เธอมโนจนออกทางแววตา
       "ดิชั้น อยากขอเบิกเงินล่วงหน้าได้ไหมคะ"เธอถามภูมินทร์
       "นัานไง มาไม้นี้เลยเรอะ"ภูมินทร์คิดอกุศลอีก
       "จะเบิกเท่าไร แล้วรู้ใช่ไหม ว่าเบิกล่วงหน้าอย่างนี้ ต้องทำอะไรบ้าง"ภูมินทร์เริ่มวางแผนการ แก้เผ็ดหญิงสาว เพราะเข้าใจรตียาในทางลบ
       "5000ค่ะ ขอให้ได้เงิน จะให้ดิชั้นทำอะไรบ้าง ก็สั่งได้เลยคะบอส"รตียาตอบเพราะในใจ ไม่คิดอะไรนอกจากงานแลกเงิน
       "อ่ะ10000บาท แล้วไปกับผมๆจะสอนผสมเหล้า คืนนี้คุณน่าจะได้ผสมทั้งคืน"ภูมินทร์ยื่นเงินให้พร้อมแววตาเจ้าเล่ห์
         ในผับตอนเที่ยงคืน นพพงษ์ ภูมินทร์ นั่งดื่มกันต่ออย่างสนุกสนาน ในขณะที่รตียาทำหน้าที่พนักงานเสริฟ
         "มานี่สิรตียา ผมบอกคุณแล้วไง แก้วผมไม่ผสมน้ำ"ภูมินทร์ตะคอกใส่รตียา
         "ขออภัยคะบอส เดี๋ยวดิชั้นผสมแก้วใหม่ให้ค่ะ"รตียาลนลาน หาแก้วใบใหม่จ้าละหวั่น
         "ไม่ต้อง ไปเรียกพนักงานPR มาให้ผม"เขาสั่ง
          "ค่ะ"รตียารับคำสั่ง
          "เฮ้ย ไหนว่าไม่กินไก่วัดไง"นพพงษ์แซว
          "ไอ้บ้า เราจะให้มาสอนงาน เด็กใหม่"ภูมินทร์อธิบาย
           "น้องเมื่อกี้เนี่ยนะ เด็กใหม่ น่าสนหว่ะ"นพพงษ์ท่าทีสนใจรตียา
           "ถ้านายคิดว่าเอาก้อนกรวดมาห้อยคอ แล้วมันสวยเหมือนเพรช ก็แล้วแต่นาย"ภูมินทร์พูดเปรียบเปรย
           "ทำไมต้องดูถูกน้องเค้าขนาดนั้นภู"นพพงษ์ตำหนิ
           ก่อนผับปิดภูมินทร์อยู่ในอาการเมามาย นพพงษ์ ต้องช่วยพยุงไว้ตลอดเวลา
           "โถพ่อคอมหาลัย หมดสภาพยิ่งกว่าเด็กอนุบาลอีก"นพพงษ์กระเซ้า
           "พอ พอ นายกลับไปได้ละ ผับจะปิดแล้ว"ภูมินทร์บอกเพื่อนน้ำเสียงอ้อแอ้
          "อ้าว แล้วนายจะกลับเลยไหมวะ"นพพงษ์ถาม
          "ไม่เราจะเรียกประชุมพนักงาน"ภูมินทร์บอกแต่สายตาชำเลืองมองรตียาแววตาเหมือนเสือจ้องตะครุบเหยื่อ
           นพพงษ์ยังถามต่อให้แน่ใจ
          "จริงดิ ไหวเหรอวะ                                             "เออน่า ไปกลับไป"ภูมินทร์ไล่เพื่อน
          "แน่นะ งั้นกลับละ"นพพงษ์ขอตัว                        ตีสองครึ่งหลังผับปิด
         "รีบๆ เก็บกวาดให้เรียบร้อย จะได้แยกย้ายกันไปพักผ่อน"ภูมินทร์ตะโกนสั่งพนักงาน
         "ส่วนคุณ วันนี้ผมต้องทดลองงาน ว่าผ่านโปรไหม อย่าเพิ่งกลับ"ภูมินทร์เดินเข้าใกล้หญิงสาวพลางกระซิบใกล้หู
        "ร้านปิดแล้วนี่คะบอส มีอะไรให้ทำอีกเหรอคะ"รตียาถามอย่างแปลกใจ
        "ผมสั่งให้คุณอยู่ คุณก็ต้องอยู่"ภูมินทร์ขี้นเสียงใส่อย่างวางอำนาจ
        "ค่ะบอส"รตียาก้มหัว มือกุมต่ำ รับคำสั่ง
        "บอสคะ ไม่สนใจรับสาวๆ ไปช่วยดูแล สักคน สองคนหรือคะ"PRสาวสวยนางหนึ่งเดินเข้ามาถามพลางลูบคลำภูมินทร์
       "คืนนี้ผมไม่ว่าง"พลางชำเลืองมองรตียา
       "ถ้าผมว่าง จะคิดถึงคุณ เป็นคนแรกเลย"ว่าพลางลูบที่ขาอ่อนPRสาวสวย
         รตียาชำเลืองมองภูมินทร์กับPRสาวนิดนึงก่อนหันหลังเดินไปช่วยพนักงานคนอื่น                         "ขับรถเป็นไหม"ภูมินทร์เดินเซเข้ามาหารตียา ในขณะที่เธอเก็บเก้าอี้ตัวสุดท้ายเสร็จ พนักงานคนอื่นได้ทยอยกลับกันเกือบหมดแล้ว
        "ขับไปไหนค่ะ"รตียาถามงงๆ
        "เท่าที่ผมจำได้ ผมถามคุณว่าขับเป็นไหมนะ"เขาย้อนเธออย่างยียวน
        "เป็นค่ะ"เธอตอบ พลางคิด"อีตาบ้า กวนประสาทชะมัด"
        "ไปบ้านผม"พูดพร้อมยื่นกุญแจรถให้ ก่อนเดินนำหน้าไปรอที่รถ
        "ไปทำไมคะบอส เดี๋ยวคะบอส เดี๋ยวคะ"เธอกึ่งวิ่งกึ่งเดินตามไป
   เมื่อเธอตามมาถึงรถ
       "หุบปาก ไม่ต้องถามอะไรมาก ผมให้ขับไปบ้านผม ก็ขับ"เขาออกคำสั่ง
     บรรยากาศภายในรถ"ช่างน่าอึดอัดเสียจริง"รตียารำพึง
      "พอถึงแยกหน้าแล้วเลี้ยวซ้ายนะ"
      "ค่ะ เลี้ยวนี่ใช่ไหม"รตียาชี้เข้าในซอย
      "บอสคะบอส"
      "อ้าวหลับ ทำไงต่อหละ"เธอรำพึงพร้อมมองหาบ้านที่น่าจะใช่บ้านของเขา
      โชคดีที่บ้านมีแค่ไม่กี่หลัง เธอขับไปเจอป้าย"วิชญทักษิณา"เธอมั่นใจ เธอเห็นนามบัตรในรถ "ภูมินทร์ วิชญทักษิณา"
        มีเด็กวิ่งออกมาเปิดประตูเหมือนรู้เวลา  หลังจากนำรถเข้าจอดเรียบร้อย
       "ฝากดูแลบอสนะคะ พอดีบอสขับรถกลับมาไม่ไหว เลยวานให้ขับมาส่งคะ"รตียาอธิบาย
        "ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ดิชั้นขอตัวกลับก่อนนะคะ"รตียารีบขอตัว
         "แล้วคุณจะกลับยังไงคะ มีรถแล้วรึยังคะ"สาวใช้เอ่ยถาม
          ขณะเดียวกันนายหัวภูชิต วิชญทักษินา ผู้เป็นบิดาของภูมินทร์ เดินออกมาพร้อมสั่ง
          "รอสักครู่ เดี๋ยวจะให้คนขับรถไปส่ง"
          "ขอบคุณคะ"รตียารีบยกมือไหว้

โซ่พยาบาทตอน2

      ที่ผับเวลาสองทุ่มตรง
     "น้องคะ พี่เป็นพนักงานใหม่ พี่พอจะช่วยทำอะไรได้บ้าง แนะนำหน่อยนะคะ"รตียาแนะนำตัว
     "พี่ทำตำแหน่งอะไรหละ"พนักงานรุ่นน้องถาม
     "PRค่ะ"เธอตอบ
     "งั้นก็ ไม่ต้องช่วยหรอก ไปนั่งแต่งหน้ารอลูกค้าเลย"พนักงานบอกก่อนเดินไปทำหน้าที่ต่อ
     "จ้างมาแต่งหน้าเหรอ"รตียาครุ่นคิด
     "คุณพนักงานใหม่ชื่อรตียาใช่ไหม"พนักงานชาย เดินมาถาม
     "ใช่คะ มีอะไรคะ"เธอถาม
     "บอสให้มาเรียกไปพบ"เขาตอบ
     "คะ ขอบคุณ"ในใจกลับคิดพะวง"จะโดนอะไรอีกนะ"

      รตียาเคาะประตูห้องนายภูมินทร์
     "เข้ามา"
     เธอเดินเข้ามายืนหน้าโต๊ะทำงานเขา
     "คุณจะกลับ ทำไมไม่บอกผม"เขาถามเสียงเข้ม
     "ก็ดิชั้นเห็นบอสหลับ ก็เลยขอตัวกลับ"
     "นี่คุณ! ไม่รู้หรือแกล้งเนี่ยรตียา"เขาหงุดหงิดใส่เธอ
      "รู้ว่าอะไรคะบอส งงจริงๆ"
      "จะโก่งราคา ว่างั้น"
      "ดิชั้น ไม่รู้จริงๆคะ ว่าคุณหมายความว่าไง"เธอชักโมโห
      "เอาเถอะๆ ไปทำงานต่อไป"ภูมินทร์โบกมือไล่ อย่างขัดใจ
 
         รตียาเดินออกจากห้อง
       "ประสาทชะมัด คนอะไรเนี่ย" เธอพึมพำ ในฃณะที่เดินลงไปทำงาน เธอสวนทางกับนพพงษ์ ซึ่งกำลังจะไปหาภูมินทร์
       "สวัสดีครับ คุณเอ่อ...คุณ"
       "รตียาค่ะ"เธอตอบ
       "ครับ คุณรตียา"
       "คุณ จำผมได้ไหมครับ ผมเพื่อนภูมินทร์ ที่เมื่อคืนคุณ"
        "ค่ะ ดิชั้น จำได้ เพียงแต่ยังไม่รู้ชื่อคุณค่ะ"
        "ผม นพพงษ์ครับ" ชายหนุ่มแนะนำตัว
        "ยินดี ที่ได้เจอคุณอีก"นพพงษ์สบตารตียา ด้วยแววตาประกาย
         "ค่ะ เช่นกัน"
         "ขอตัว ทำงานนะคะ"รตียาเดินเลี่ยงออกมา
       
          เสียงเคาะประตูดังขึ้น
          "เปลี่ยนใจ หละสิ มารยา ท่าเยอะ"ภูมินทร์คิด
          "ไงภู เมื่อคืน กลับยังไง"นพพงษ์ถามทันทีเมื่อมาถึง
           "อ้าว นายเองเหรอ คิดว่า...."
           "คิดว่าอะไร คิดว่าใคร"นพพงษ์ พยายามมองหา
           "เปล่า ไม่มีอะไรหรอก"ภูมินทร์กลบเกลื่อน
           "เฮ้ยภู เมื่อกี้ เราเจอ พนักงานใหม่ที่ชื่อ รตียาด้วย น่ารักมากๆเลย พูดจาก็..."
           "จะพล่ามอีกนานมะ รำคาญ"ภูมินทร์ตัดบท
           "หงุดหงิด อะไรอีกครับคุณภูมินทร์"นพพงษ์ถามแกมหยอก
           "หงุดหงิด ก็ไป ดื่มต่อ"นพพงษ์พูดพร้อมดึงมือให้ชายหนุ่มลุก ในฃณะที่เสียงโทรศัพท์ภูมินทร์ดังขึ้น
          "ว่าไงที่รัก"ภูมินทร์รับสาย
          "ทำไม ภูไม่มาหารินบ้าง รินเหงา รอคุณโทรมาคุณก็ไม่โทรมาเลย"รินรดา คู่ขาภูมินทร์ทำเสียงกระเง้ากระงอด
           "ช่วงนี้ งานผมยุ่งๆริน ผับก็เพิ่งเปิด ไหนจะงานที่เหมืองอีก ผมว่างเมื่อไร จะรีบไปหาคุณคนแรกเลยนะ อย่างอนผมเลยที่รัก"ภูมินทร์ทำเสียงอ้อน
           "ก็ได้ค่ะภู แต่คุณต้องสัญญากับรินนะ ถ้าคุณว่าง คุณจะพารินไปมัลดีฟ"เธอขอ
           "ได้เลยที่รัก จะยิ่งกว่ามัลดีฟ ผมก็จะพาไป เอาให้ลืมเมืองไทย ไปเลยดีไหม"
           "ดีค่ะ แล้วอย่าให้รินรู้ ว่าคุณวุ่นวายกับสาวอื่น รินตามถึงที่แน่ๆ"รินรดาขู่
           "ครับผม แค่นี้นะที่รัก"ภูมินทร์กดวางสาย
           "รินโทรมา"นพพงษ์ถามเพื่อนทั้งที่รู้คำตอบ
           "ตกลงนายกับริน จะยังไงกันแน่ภู"
           "นายก็รู้คำตอบ ว่าทำไม"ภูมินทร์ทำหน้าเครียด
           "แล้วทำไม ไม่บอกกับรินตรงๆ ว่านายไม่ได้คิดจริงจัง ถึงยังไงพวกเราก็เพี่อนกัน ทั้งรินทั้งนายทั้งเราโตมาด้วยกัน เรียนมาด้วยกัน อย่าเห็นแก่ตัว ที่จะเก็บรินเอาไว้ทั้งที่นายไม่คิดจะจบที่ริน"
นพพงษ์เตือน
           "เออ เดี๋ยวเราว่าจะหาโอกาสบอกริน ปะดื่มดีกว่า

       
         
            ภายในผับ
            รตียายืนอยู่หน้าเคาท์เตอร์บาร์ เพื่อรอต้อนรับลูกค้า
            "ทางนี้ครับพี่ เชิญครับ"พนักงานบอกกับไกด์ ซี่งกำลังพาลูกค้ากรุ๊ปแรกของคืนมาถึง
            "รับเครื่องดื่ม อะไรดีครับ"
            "เอาเบียร์มาก่อน แล้วเรียกPRให้ด้วย"ไกด์บอก
             "PR10คน มีใครมาถึงแล้วบ้าง"ผู้จ้ดการร้านเดินเข้ามาถามสาวๆ
             "ที่มาแล้วก็มี ดาว,มิ้นต์,กาญน์,นา,พีท,รัน,ยา,จีน่า แล้วก็หนูนี่แหละ"วรรณPRนางหนึ่งพยายามนับให้ครบ
             "ขาดคนนึงสิ"ผู้จัดการคิด
             "อ๋อ ไม่ขาดค่ะ มีพนักงานใหม่อีกคนยืนอยู่ตรงเคาท์เตอร์บาร์ค่ะพี่"วรรณบอก
             "เหรอ ชื่ออะไร"ผู้จัดการถามวรรณ
             "ถ้าหนูจำไม่ผิด ชื่อรตียาค่ะ"วรรณตอบ
             "โอเคร ครบ ไปๆรีบๆ ไปกันก่อน เดี๋ยวจะไปตามอีกคนตามไป"ผู้จัดการสั่ง
           
              ผู้จัดการถาม
             "ใช่PRชื่อรตียา ใช่ไหม"
             "ใช่ค่ะ"
             "มา ตามมานี่"รตียาเดินตาม
             "รับลูกค้า ญี่ปุ่น แล้วต่อไป พอมาถึงที่ร้านแล้วมานั่งรวมกับกลุ่มPRนะ จะได้เรียกง่ายๆ"
             "ค่ะ"รตียารับทราบ เมื่อมาถึงกลุ่มนักท่องเที่ยว เธอกลับต้องมานั่งกับไกด์นำเที่ยว
             "สวัสดีค่ะ"เธอทักทาย
             "นั่งลงสิ"ไกด์บอก
             "เพิ่งมาทำงานที่นี่เหรอ ผมพาลูกทัวร์มาเที่ยวตั้งแต่ที่นี่เปิดตัววันแรก ไม่เคยเห็นเลย"
             "ค่ะ วันนี้วันที่สอง"
             "โอเคร วันนี้ เต้นเป็นเพื่อนผม เดี๋ยวผมเชียร์ทิปให้หนักๆ"ไกด์บอก
             "ดิชั้น เต้นไม่เป็นหรอกคะ"
             "ไม่เป็นไร นั่งเป็นเพื่อนก็ได้"ว่าแล้วพลางโอบไหล่รตียา
             รตียาพยายามเบี่ยงตัวออก
     
             "เอาดื่ม"ไกด์บอกกับทุกคนพร้อมหันไปสั่งเด็กเสริฟ
             "ถ้าเครื่องดื่มใครหมด ต่อมาเลยนะเรื่อยๆ วันนี้เต็มที่กันเลยทุกคน"พร้อมยกแก้วเป็นสัญญาณให้ทุกคน
              "คัมปาย เฮ้ๆ"ทุกคนชนแก้วดื่มกันอย่างสนุกสนาน
              "เอ้าดื่ม เยอะๆ" ไกด์หนุ่มจับแก้วใส่ปากให้รตียา
           
             ขณะที่ภูมินทร์และนพพงษ์กำลังนั่งดื่มอยู่นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยเข้ามาจนหนาตา
              "มองหาใครภู เราเห็นนาย มองตั้งแต่มานั่งแล้ว"
             "เปล่านี่ !มองอะไร ไปเรื่อยเปื่อย"ภูมินทร์ปฏิเสธ แต่ก็ยังไม่หยุดมองไปที่รตียา พร้อมกับยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวหมดโดยไม่ละสายตาจากเธอ
             "เอา ออนเดอะร็อคมา"เขาสั่งเด็กเสริฟ
             "ครับนายหัว"เด็กเสริฟชาวใต้รับแก้วจากภูมินทร์
             "เฮ้ยๆ ขนาดผสมเมื่อวานยังแทบคลานกลับ นายเป็นไรภู"
            "ไม่เป็นไร แค่อยากดื่ม"ตอบเพื่อนแต่สายตายังอยู่ที่รตียา ในขณะเด็กเสริฟยื่นแก้วให้ ภูมินทร์คว้าแก้วมาดื่มโดยไม่รอ
            "เฮ้ยๆภู ไม่ใช่แล้ว"นพพงษ์เข้ามาดึงแก้วออกจากมือภูมินทร์
           "นายทำอะไรนพ เอาแก้วมาคืน"
           "ถ้านายดื่มอย่างนี้ เราไม่ให้นายดื่ม"นพพงษ์บอกเพื่อน
           "นายเคยอยากได้อะไร แล้วไม่ได้ไม๊"
           "เคยดิ บ่อยไป อยากได้ของเล่นแล้วพ่อไม่ซื้อให้ อยากกินไอศกรีมตอนป่วย แล้วแม่ห้ามอะไรอย่างเนี้ย ว่าแต่นายถามทำไม นายอยากได้อะไรวะ" นพพงษ์ถามงงๆ
           "แต่คนอย่างภูมินทร์ ถ้าอยากได้อะไร ก็ต้องได้!"ภูมินทร์พูดออกมาด้วยความอยากเอาชนะ
          เที่ยงคืนครึ่ง
          "คุณคะ ดิชั้นขอเข้าห้องน้ำนะคะ"เธอขอตัวกับไกด์
          "เชิญครับ ตามสบาย ให้ผมไปเป็นเพื่อนไหม"
          "ไม่เป็นไรค่ะ"
          ในขณะที่รตียากำลังจะเดินไป จีน่าพนักงานPRสาวอีกคน ก็กำลังจะไปห้องน้ำ
          "ไปห้องน้ำเหรอ"จีน่าถาม
          "ค่ะ"
          "งั้นไปพร้อมกัน"จีน่าชวนเธอ
        ฝ่ายทางภูมินทร์เห็นว่ารตียากำลังเดินออกมาจากโต๊ะนักท่องเที่ยว
           "เข้าห้องน้ำแปปนะนพ"
           "ให้ไปด้วยไหม"
           "ไม่ต้อง เราไปเอง"ภูมินทร์บอก
           "เคร"
         ที่ห้องน้ำหญิง
           "คุณจีน่าคะ ดิชั้นถามอะไรหน่อยคะ"
           "ว่าไงคะ"จีน่าถามพลางล้างมือ
           "ถ้าลูกค้าจะพาเราออกไปเที่ยวต่อข้างนอก ถ้าเราไม่อยากไป จะทำยังไงคะ"
           "ก็ซื้อเวลาตัวเองสิคะ ปฏิเสธลูกค้าไม่ได้ เราต้องใช้เงินเราเองคะ"จีน่าสอน
           "ถ้าเราไม่มีเงินสดจ่าย จะให้หักในเงินเดือนได้ไหมคะ"เธอถาม
           "ทำไมถึงไม่อยากไป เงินเค้าก็จ่ายให้ ไม่ต้องควักเงินตัวเอง แล้วยังได้ทิปอีก ทั้งกิน ทั้งเที่ยวฟรี ดีจะตาย"เธอบอกอย่างอารมณ์ดี
           "แล้วอย่าให้ผู้จัดการหรือบอสรู้นะ ว่าปฏิเสธลูกค้า มีหวังงานเข้า กลับก่อนนะคะ"เธอขอตัว
           "แย่จัง เงินที่เบิกมาเมื่อวาน ส่งให้แม่ไป7000เหลือ3000 ถ้าต้องซื้อเวลาอีก1500 เหลือ1500 จะใช้ยังไงได้ตลอดเดือน"เธอนับเงินที่เหลือ พาลคิดหนัก
            หน้าห้องน้ำภูมินทร์แอบสังเกตรตียาอยู่เงียบๆ
         
           ภูมินทร์เดินกลับมาที่โต๊ะ พร้อมสั่งเด็กเสริฟ
           "ไปเรียกผู้จัดการมาหาผมหน่อยนะ ผมจะขึ้นไปรอห้องทำงาน"
           "ทำไมเหรอภู ลูกค้ามีปัญหาเหรอ"นพพงษ์ถาม
           "นิดหน่อย นายนั่งดื่มรอเราก่อนนะ เดี๋ยวเรามา" ว่าแล้วก็เดินขึ้นไปห้องทำงาน
           เสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้น
           "เข้ามาครับ"ภูมินทร์อนุญาติ
           "ครับบอส มีอะไรเหรอครับ"ผู้จัดการถามเมื่อเข้ามาในห้อง
           "พอดีว่า มีลูกค้าที่เป็นเพื่อนผม เค้าฝากเงินมาซื้อเวลาให้ รตียา"ควักแบงค์พันห้าแบงค์ ส่งให้ผู้จัดการ "แต่เรื่องนี้เป็นความลับนะ"
           "ครับบอส พอดีลูกค้ากำลังจะ จ่ายบิลเห็นว่าจะซื้อเวลาทั้งหมดทุกคน
           "คนอื่นก็ซื้อไป ถ้าลูกค้าถามเรื่องรตียา ก็บอกว่ามีคนซื้อเวลาไว้ก่อนแล้วตั้งแต่หัวค่ำ"
             "ครับบอส"
           ที่กลุ่มนักท่องเที่ยว
              "อะไร ทำไมซื้อไม่ได้"ไกด์โวยวาย
              "พอดี มีลูกค้า โทรมาซื้อเอาไว้ตั้งแต่หัวค่ำแล้วครับ"ผู้จัดการพยายามอธิบาย
              "ไหนคุณบอกผมว่า เพิ่งมาทำงาน ทำไม ถึงขนาดโทรมาซื้อเวลาได้"ไกด์หันมองรตียา
              รตียาก้มหน้าได้แต่ชำเลืองสบตากับจีน่างงๆ
              "ทีหลัง ถ้าผมมา อย่าเอาผู้หญิงคนนี้มานั่งอีกนะ ใหม่ที่นี่ เก่าที่อื่น" ไกด์หนุ่มพูดพลางมองรตียาอย่างเหยียดหยาม
              "กลับ"บอกพร้อมเดินจากไป รตียาได้แต่ก้มหน้า น้ำตาแห่งความคับแค้นไหลหยดลงพื้น
             "ปะ เรา"ผู้จัดการหันมาคุยกับรตียา หลังจากกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินพ้นประตูผับ
              ผูจัดการมองหน้ารตียา
             "ไม่เอาน่า อย่าร้อง"
             "ใครจ่ายเงินคะ"เธอหันมาถามผู้จัดการสายตาคาดคั้น
             "พี่จ่ายให้เองแหละ"
             "จีน่า เล่าให้พี่ฟังเหรอคะ"
             "ใช่ๆ จีน่า ใช่"เขารับส่งๆ
             "เงินเดือนออกเมื่อไร จะรีบคืนให้นะคะ"
             "ไม่เป็นไรน่า ปะ ช่วยกันเก็บกวาด ร้านจะปิดแล้ว"เขาสั่ง

     

แนะนำตัวละคร โซ่พยาบาท

 

                  โซ่พยาบาท          

     " รตียา ศศิรุจ"หรือ รตี อายุ25ปี สาวหน้าคม ผิวสีแทน นัยตาสีน้ำผึ้ง เธอต้องระหกระเหินมาทำงานให้ นายจ้างชาวต่างชาติที่ภูเก็ต หลังจากโดนเพื่อนสนิทของมารดาโกงธุรกิจที่ลงทุนร่วมกัน พร้อมหนี้สินที่เธอต้องแบกรับอีกนับล้าน
       "ภูมินทร์ วิชญทักษินา"บอสหรือนายหัวภู อายุย่างเข้า30ปีหนุ่มหน้าตาคมเข้ม แบบฉบับหนุ่มใต้ หนุ่มเพลย์บอยนักธุรกิจดังแห่งแดนใต้
        "รินรดา สิทธิจรรยา"หรือริน อายุ29ปี ลูกสาวนักธุรกิจเพื่อนนายหัวภูชิต เป็นทั้งเพื่อนทั้งคู่นอนกับภูมินทร์ รักภูมินทร์มากจนยอมทุกอย่างทั้งที่รู้ว่าเขาไม่คิดจริงจัง
        "นพพงษ์ วชิรทัต"อายุ30ปี เพื่อนสนิทของภูมินทร์และรินรดา
        "หมออรรณพ วชิรทัต"น้องชาย วัย30 ของนพพงษ์
         "ภูชิต วิชญทักษินา" หรือ นายหัวใหญ่ นักธุรกิจ ผู้ทรงอิทธิพลแห่งแดนใต้ บิดาของภูมินทร์
          "รพีพร ศศิรุจ"มารดา ของรตียา คุณยายของ น้องแพรเพรช
           "แพรเพรช  ศศิรุจ"หรือน้องลูกแพร ลูกสาวของรตียา

                         คำเตือน

1.นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียนเพื่อความบันเทิง ไม่มีเจตนาพาดพิงถึงบุคคลหนึ่ง บุคคลใด
2.เจ้าของรูปภาพที่นำมาประกอบบทบาทของตัวละครไม่เกี่ยวข้องกับนิยายเรื่องนี้
3.อาจมีคำพูดที่ไม่เหมาะสมหรือมีคำรุนแรง ผู้มีอายุต่ำกว่า18ปี ควรได้รับคำแนะนำ